เรียน คุณ wiriya,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลมาว่าเป็นยาคุมกำเนิดชนิดใด ยี่ห้อใด ขอตอบแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ

1. หากเป็นการรรับประทานยาคุม 2-3 แผงแรก อาจเป็นไปได้นะครับ เนื่องจากร่างกายยังไม่สามารถปรับเข้ากับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดได้ ซึ่งหลังจากนี้แล้ว อาการดังกล่าวจะค่อย ๆดีขึ้น แต่หากผ่านไปแล้ว 2-3 เดือน อาการยังไม่ดีขึ้น หรือเป็นเพิ่มรุนแรงมากขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน เพื่อปรับ/เปลี่ยนประเภทของยาคุมกำเนิดให้มีชนิดของฮอร์โมน เหมาะสมกับตัวคุณ โดยอาจต้องพิจารณาถึงลักษณะทางกายภาพ รูปแบบการมีประจำเดือน ยาคุมกำเนิดชนิดเดิมที่เคยรับประทาน (ชนิดฮอร์โมนโปรเจสติน และความแรงของยา)

2. หากเป็นการรับประทานยาที่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ไม่เคยพบปัญหาเช่นนี้มาก่อน และอาการเริ่มเป็นมากขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เนื่องจากอาจไม่ได้เกิด จากยาคุมกำเนิดที่รับประทานอยู่

ขอแนะนำเพิ่มเติม ไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนทำให้ระดับยาคุมกำเนิดลดต่ำลง จนทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาด เกิดเป็นเลือดกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ หรือไม่ตรงกับข้อสงสัยของคุณ และในบางปัญหาอาจรุนแรงจนเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ขอแนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์