กระดานสุขภาพ

กินยาคุมไม่ถึงครึ่ง ชม. แล้วถ่าย
Fai2*****1

1 กันยายน 2558 13:53:10 #1

ปกติกิน เมอซิลอน 28เม็ด ค่ะและพอกินแผงใหม่ วันแรก เม็ดแรก เวลา 18.45 น. แต่ไม่ถึง ครึ่งชม. ก็ปวดท้องเข้าห้องน้ำ เลยกินยาคุมซ้ำเป็น 2เม็ด เผื่อยายังไม่ดูดซึม เพราะยังไม่ถึง 1ชม. ตอนเช้า คลื่นไส้ อาเจียน แล้วก็หายไป จนมา วันที่ 6 เม็ดที่ 6 หลังจากกินน้ำมะพร้าว ครึ่งชั่วโมง ก็ กินเม็ดที่ 6 เวลา 19.00.น. และไม่ถึง30 นาที ท้องเสียเข้าห้องน้ำ เวลา19.25น. เลยกินยาคุมซ้ำอีก แล้วซ้ำเม็ดที่ 2 ไม่ถึง 30 นาทีก็มีอาการท้องเสีย เข้าห้องน้ำอีก แต่คราวนี้ได้กินยาคุมซ้ำแล้ว เพราะไม่อยาก กินซ้ำ 3 เม็ดในวันเดียว กลัว ผลข้างเคียงค่ะ คือ อยากถามคุณหมอว่า 1.กินยาซ้ำกันบ่อยๆ เป็นอะไร รึป่าวค่ะ 2.ถ้า กินยาแล้ว ซ้ำ 2 เม็ด แล้ว ไม่ถึง 30 นาที ยังปวดท้องแล้วถ่ายอีก ต้องกิน เม็ดที่ 3 รึป่าวค่ะ 3.กินน้ำมะพร้าว บ่อยๆ มีผลต่อยาคุมมั่ยค่ะ
อายุ: 32 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.73 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

12 กันยายน 2558 13:39:40 #2

เรียน คุณ fai21,

จากข้อมูลที่คุณให้มานั้น ขอแยกตอบเป็นประเด็นครับ

1. หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ภายหลังรับประทานยา ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ให้รับประทานยาซ้ำอีก 1 เม็ด แต่หากเกิน 2 ชั่วโมงไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาเพิ่มอีก เนื่องจากมีตัวยาบางส่วนได้ถูกดูดซึมไปแล้ว (ซึ่งไม่ทราบเปอร์เซ็นต์ยาที่ดูดซึมแน่นอน) หากเป็นยาที่มีอันตราย อาจเกิดอาการพิษจากยาได้

2. กรณีมีอาการท้องเสีย หลังจากรับประทานยาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยา เนื่องจากตัวยาจะยังอยู่บริเวณกระเพาะอาหาร ยังไม่ถูกกำจัดออกไป และร่างกายยังสามารถดูดซึมยาได้บางส่วน

ดังนั้น หากมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร หากไม่มั่นใจว่าอาการหายดีแล้วหรือไม่ ให้เว้นช่วงกลางคืน และไปรับประทานยาตอนเช้า คล้ายกับการลืมรับประทานยา จะดีที่สุดครับ

โดยในช่วงหลังวันดังกล่าว 5-7 วัน หากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้การสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการคุมกำเนิด

- การรับประทานยาซ้ำ ๆบ่อย ๆ โดยที่ไม่ทราบว่าร่างกายได้ดูดซึมยาไปแล้วเท่าไร จะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายไม่สม่ำเสมอ อาจส่งผลต่อระบบมดลูกและรังไข่ เช่นมีอาการปวดมวนท้อง ท้องอืด แน่นท้อง หรือเลือดประจำเดือนออกกะปริบกะปรอย หรือรอบประจำเดือนล่าช้าออกไป จากการได้รับฮอร์โมนสูงเกินขนาด

- ดังที่ได้แจ้ง หากอาการทางระบบทางเดินอาหารยังไม่หายดี ให้เลื่อนไปรับประทานยาในเช้าวันถัดไป จะดีกว่านะครับ คล้ายกับการลืมรับประทานยา โดยหลักการคือสามารถลืมรับประทานยาได้ 1-2 วัน โดยที่ยังยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้อยู่ แต่ต้องมีการรับประทานยาชดเชย ไม่ควรรับประทานยาคุมฯเข้าไปซ้ำ ๆอีก หากยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือท้องเสียอยู่

- หากดื่มตามปกติ เช่น วันละ 1 - 2 แก้ว ไม่พบว่าส่งผลต่อการคุมกำเนิดนะครับ ยกเว้นในบางรายที่ไวต่อสารคล้ายฮอร์โมนในน้ำมะพร้าว อาจมีอาการปวดท้อง เลือดออกกะปริบกะปรอยได้ หรือหากเป็นร้านที่ไม่สะอาด มีการปลอมปน อาจทำให้ท้องเสีย หรืออ้วนจากน้ำตาลที่เติมลงไปได้

โดยหลักการให้รับประทานยาคุมกำเนิดในช่วงก่อนเข้านอน ซึ่งควรเป็นช่วงเวลาท้องว่าง รับประทานยาในเวลาใกล้เคียงกันทุกคืน เวลาคลาดเคลื่อนไม่เกิน +/- 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ ออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตลอดวัน ป้องกันภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย และป้องกันการลืมรับประทานยา

- รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา(รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ นม น้ำเต้าหู้ โยเกิร์ต โซดา น้ำอัดลม ฯ หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะกระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งกำจัดยา สร้างน้ำย่อยหรือเอนไซม์เพิ่มมากขึ้น ร่างกายจึงกำจัดยาได้มากและเร็วขึ้น จึงเหลือตัวยาสำคัญน้อย เช่น น้ำส้มคั้น น้ำเกรปฟรุต น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต ฯ

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากบางปัญหาจากการใช้ยา ยาตีกัน นั้น อาจเกิดรุนแรงจนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาขยายหลอดลม ผลิตภัณฑ์ใยอาหาร เป็นต้น

จากข้อมูลที่คุณให้มา หากยังมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารบ่อย ๆแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และปรับเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดเป็นชนิดฉีด หรือห่วงทองแดงคุมกำเนิดจะสะดวกและปลอดภัยกว่านะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ การคุมกำเนิด (Contraception) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์