กระดานสุขภาพ

โรคกระเพาะอาหาร
Ratt*****a

26 ธันวาคม 2556 07:00:24 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอเล่าข้อมูลก่อนนะคะ
       เป็นโรคกระเพาะมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่ 21 ตุลาคม 2556 กินยาตามที่แพทย์สั่งไม่ขาดเลย มียา Omeprazole 20 mg รับประทาน  1 เม็ด แล้วก็มียาน้ำ ยี่ห้อ bowa gel ทานคู่กันมาโดยตลอด และมียาแก้ปวดท้อง กับแกอาเจียน อันนี้กินไม่ตลอด  ปัจจุบันยังมีอาการปวดท้องบ้างบางวัน แล้วก็มีอาการคลื่นไส้บางวัน โดยอาการจะค่อนข้างเยอะพอสมควร เรื่องอาหาร กินข้าวเยอะมาก หิวบ่อย แต่น้ำหนักไม่ขึ้น ช่วงแรกกินข้าวต้ม แต่ปัจจุบันกินอาหารปกติ ไม่ทราบว่าต้องควรทำอย่างไรหรอคะ เพราะว่าอาการก็ยังมีมาเรื่อยๆ

**ที่คลื่่นไส้คิดว่าท้อง   ข้อเล่าข้อมูลอีกนะคะ
คือประมาณ  26 พฤษจิกายน 2556 มีเลือดสีน้ำตาลออกมากจากช่องคลอดนิดเดียว ตกใจมากคิดว่าเป็นเลือดแบบนั้น เครียดมาโดยตลอด แล้วประจำเดือนก็ไม่มา และเป็นช่วงก่อนสอบด้วย จนวันที่ 11 ธ.ค.ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ผลออกมาไม่ท้อง แล้วประจำเดือนก็มาเลย แต่มาแค่คิดเดียว 4-5 วัน คือมาน้อยแค่แผ่นอนามันเล็กๆ เองค่ะ แล้วก็ไม่ปวดประจำเดือนด้วย แล้วก็มาตรวจอีกทีวันที่ 20 ธ.ค. ผลออกมาก็ไม่ท้อง  ถ้าเป็นแบบนี้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ 
**โดยปกติเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว จากยาที่ทานแก้โรคกระเพาะ จะมีผลกับประจำเดือนไหมคะ 

โดยวันนี้ก็มีอาการคลื่นใส้อีก ไม่ทราบว่า อาการทั้งหมดนั้นต้องทำอย่างไรดีคะ   
ขอบคุณค่ะ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 39 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 14.33 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

27 ธันวาคม 2556 04:23:11 #2

หมอในฐานะของสูตินรีแพทย์ ขอให้ความเห็นดังนี้ครับ

จากลักษณะความผิดปกติของประจำเดือนนั้น หากตรวจการตั้งครรภ์แล้ว ผลเป็นลบ ก็ถือว่า ไม่ตั้งครรภ์นะครับ ส่วนสาเหตุจากประวัติที่มีความเครียด ก่อนสอบ จากลักษณะเลือด เข้าได้กับภาวะที่ไม่ตกไข่ครับ ซึ่งเลือดที่ออกมาอาจกะปริดกะปรอย ครับ หรือในบางคน จะไม่มีเลือดประจำเดือน ขาดหายไปได้ก็ได้ครับ ซึ่งภาวะนี้ เกิดจาก ความผิดปกติของการตกไข่ ทำให้ระดับฮอร์โมนผิดปกติไป ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติในช่วงแรก ทำให้ประจำเดือนขาดหายไป ต่อมา เมื่อหนาตัวมากขึ้น จนมีการแตกหรือลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้มีเลือดออกมา อาจกะปริดกะปรอย มาไม่เป็นรอบ ลักษณะแบบนี้ ก็จะวนเวียนไปมา ครับ ซึ่งสาเหตุของการตกไข่นั้น มักมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ

ส่วนอาการของการคลื่นไส้นั้น น่าจะเป็นอาการของโรคกระเพาะอาการ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์นะครับ เพราะอาการคลื่นไส้ ที่เกิดจากการตั้งครรภ์ มักจะเกิดเมื่อ อายุครรภ์ประมาณ 7-9 สัปดาห์ครับ ซึ่งตรวจการตั้งครรภ์ก็จะพบแล้ว

ส่วนในเรื่องของยารักษาโรคกระเพาะอาหารนั้น ไม่มีผลต่อรอบหรือเลือดประจำเดือนนะครับ ดังนั้น หมอขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงส่ิงที่หมอกล่าไป ทานอาหารให้ตรงเวลา ทานเป็นมื้อ ไม่ทานจุกจิก เป็นอาหารอ่อนๆ รดไม่จัด เป็นต้นครับ

Ratt*****a

27 ธันวาคม 2556 04:58:42 #3

ขอบคุณค่ะ คุณหมอที่ให้คำแนะนำ
แล้วโรคกระเพาะอาหาร จากการรักษามาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วแต่อาการยัง มีอาการที่ได้เล่าไปบ้าง ไม่ทราบว่ามันปกติหรือเปล่าคะ กลัวว่าจะเป็นอย่างอื่นแทรกซ้อนในกระเพาะ ถ้าอยากทราบให้แน่ชัดเลยควรทำอย่างไรคะ ว่าเป็นโรคกระเพาะยังไม่หายหรือเป็นอย่างอื่นแทรกซ้อนจะต้องควรทำอย่างไรดีคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

28 ธันวาคม 2556 06:23:22 #4

ปกติการวินิจฉัยโรคกระเพาะอาหารนั้น จะใช้ลักษณะอาการเป็นหลักครับ การรักษาหลัก คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลักษณะการทานอาหารครับ ใช้ยาช่วยในช่วงที่มีอาการ แต่หากพยายามรักษาด้วยยาและปรับเปลี่ยนอย่างเต็มที่อาการไม่ดีขึ้น หมอแนะนำให้มาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินอาหาร เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นๆที่อาจเป็นไปได้ครับ