กระดานสุขภาพ

อาการแบบนี้มีโอกาสท้องบ้างไหม
Anonymous

15 พฤษภาคม 2562 13:55:31 #1

อยากสอบถามค่ะ พอดีอยากมีลูกมาก แต่เป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติตั้งเเต่อายุ 12 ปี ตอนนี้ 25 ปี รักษาโดยการกินยาตามที่ได้ปรึกษาหมอหลายที่ก็ยังไม่ปกติ ไม่มีการคุมกำเนิดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 จนปัจจุบัน เดือนเมษายน 2562 ประจำเดือนมาช่วงวันที่ 9-13 มีเพศสัมพันธ์วันที่ 16 พอมาถึงเดือนนี้(พฤษภาคม) ตั้งเเต่ช่วงวันที่ 5-15 มีอาการปวดตึงที่เต้านมทั้ง 2 ข้าง(อาการเหมือนจะเป็นประจำเดือนแต่นานกว่าทุกครั้ง)บางครั้งนมตั้งเต้าและเจ็บมาก บางครั้งเต้านมก็ปกติเเต่ก็ยังเจ็บ และประจำเดือนยังไม่มา อาการเเบบนี้มีโอกาสท้องไหมค่ะ 

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.98 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

16 พฤษภาคม 2562 03:32:47 #2

จากประวัติที่คุณบอกมาคุณมีรอบเดือนมาไม่ปกติตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน และเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก น้ำหนัก 68 กิโลกรัม ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดความไม่ปกติของรังไข่หรือที่ทางการแพทย์เรียกกันทั่วไปว่าภาวะกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่หรือ PCOS (polycystic ovarian syndrome) ภาวะนี้มักจะพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้ไขมันไปสะสมที่บริเวณผิวรังไข่ จนผิวรังไข่มีความหนาตัวมาก ไข่จึงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จะทำให้ไข่ไม่ตกเมื่อไข่ไม่ตกก็จะขาดการสร้างฮอร์โมนที่สำคัญคือโปรเจสเตอโรน ซึ่งจะทำหน้าที่ไปเปลี่ยนผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้สุกและหลุด ลอกออกมาเป็นประจำเดือน จึงทำให้คุณไม่ค่อยมีประจำเดือนมาและผนังเยื่อบุโพรงมดลูกอาจจะมีความหนาตัวมากเกินไปเรื่อยๆ ถ้ารอบเดือนไม่มาตรงตามปกติหรือขาดหายไปนานเกิน 3 เดือน คุณอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการเกิดมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้เช่นกัน และภาวะนี้ก็จะทำให้มีบุตรยากเพราะไข่ไม่ตกการรักษาอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านมีบุตรยากเพื่อใช้ยากระตุ้นไข่ตก และ แพทย์จะนัดทำการตรวจอัลตราซาวด์เป็นระยะเพื่อประเมินลักษณะของไข่รังไข่ในการรักษาเพื่อให้คุณตั้งครรภ์ได้ต่อไป การลดน้ำหนักตัวลงจะช่วยทำให้ภาวะนี้ดีขึ้นได้เช่นกัน สำหรับอาการคัดตึงเต้านมหรือเจ็บที่เต้านมน่าจะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย สำหรับเรื่องการตั้งครรภ์นั้นภาวะนี้แม่ว่าจะตั้งครรภ์ยากแต่ก็สามารถตั้งครรภ์ได้เองเช่นกันถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ตรงกับไข่ตกพอดี ดังนั้น ถ้ารอบเดือนไม่มาและสงสัยว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์ก็ควรทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยจะได้ทราบแน่นอนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ