กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมาไม่หยุด 9 เดือน เป็นอันตรายอย่างไรบ้างคะ
Anonymous

30 มีนาคม 2561 15:55:13 #1

เริ่มต้นจากที่ไปฉีดยาคุมครั้งแรกที่อนามัยแห่งหนึ่ง ฉีดไปหนึ่งเข็ม แล้วเลือดก็มาไม่หยุด เลยไปหาหมอที่คลินิคหมอให้ยาปรับฮอร์โมน เมื่อกินยาหมดแต่ประจำเดือนยังไม่หายเลยกินยาสตรีเบญโรไป 1 เม็ด แต่ประจำเดือนก็ยังไม่หายอีกเมื่อกลับไปคลินิคเดิมหมอได้เอาเลือดและขุดเยื้อโพรงหมดลูกไปตรวจและทำการอันตร้าซาว หมอบอกว่าเป็นแผลในช่องคลอด แต่ตอนตอนนี้หมอบอกว่าปกติแล้วแต่เลือดยังไม่หยุด หมอบอกว่ามันเป็นยาคุมเข็มแรกต้องรอ 8-9 เดือนถึงจะหมด แต่ตอนนี้เป็นกังวลมาก เพราะเริ่มมีอาการข้างเคียง ร่างกายอ่อนเพลียตาพล่ามัว ความดันต่ำ น้ำหนักลด จึงอยากปรึกษาหมอ
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

31 มีนาคม 2561 17:12:54 #2

คุณคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุม ยาฉีดคุมกำเนิดจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูง ค่อยๆออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์โดยทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้น จนตัวอสุจิไม่สามารถผ่านไปได้ และยังทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความบางตัวลง จนตัวอ่อน ไม่สามารถ ฝังตัวได้ และยังทำให้ท่อนำไข่มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลงจนอสุจิและไข่ไม่สามารถปฏิสนธิกันได้ นอกจากนี้ยังไปออกฤทธิ์ที่บริเวณรังไข่โดยกดการตกไข่ ทำให้ไข่ไม่ตก ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการออกฤทธิ์ของยาฉีดคุมกำเนิด ดังนั้น หลังฉีดยาคุมคุณจึงอาจจะมีเลือดออกผิดปกติกระปริบกระปรอยได้ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงของยา ถ้าทนอาการข้างเคียงไม่ได้ ก็ควรหยุดการใช้วิธีคุมกำเนิดชนิดนี้และเลือกวิธีการคุมด้วยการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแทน บางรายถ้าฉีดไปนานๆเพราะจะทำให้ไม่มีรอบเดือนมาได้เช่นกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดด้วยการรับประทานยาคุม แต่ข้อเสียคือคุณจะต้องทานทุกวัน ถ้าลืมทานยาจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น จึงอาจเลือกวิธีการสวมใส่ถุงยางอนามัย แต่ถ้าแฟนไม่ยอมใช้ก็อาจจะต้องคุมโดยการฝังยาหรือใส่ห่วงคุมกำเนิดแทนค่ะ
________________________________________