กระดานสุขภาพ

รบกวนคุณหมอช่วยตอบหน่อยค่ะ
Anonymous

24 มีนาคม 2561 11:44:01 #1

ดิฉันมีพสพ.กับแฟน ตัวดิฉันเองไม่ทานยาคุมค่ะ แต่แฟนป้องกันโดยใส่ถุงทุกครั้งค่ะ มีพสพ.กันประมาณอาทิตย์นึง2-3ครั้งค่ะ รอบเดือนครั้งล่าสุดมาวันที่29/1/61 จนถึงปัจุบันนี้(24/3/61)ยังไม่มา ประจำเดือนขาดไปเกือบสองเดือนแล้วค่ะ ช่วงที่เอะใจคือต้นเดือนมีนาคม ไปซื้อชุดตรวจครรภ์มาตรวจก็ขึ้นขีดเดียว ตรวจไปหลายอันเลยค่ะขึ้นขีดเดียวหมด คิดว่าประจำเดือนคงจะเลื่อน ล่าสุดวันที่16/3/61 ทนไม่ไหวไปหาหมอที่โรงพยาบาลแถวบ้าน หมอให้ตรวจฉี่อีกก็ไม่พบว่าตั้งครรภ์ หมอเลยนัดดิฉันให้มาเจอหมอสูตินรีเวชอีกคนในวันศุกร์ที่23 รอจนถึงวันที่23 ดิฉันไปพบหมอสูติฯ หมอถามว่ามาทำไม ดิฉันบอกว่ามาตรวจการตั้งครรภ์เพราะประจำเดือนขาดเกือบ2เดือนแล้ว คุณหมอบอกว่ายังขาดไม่ถึง3เดือนหมอไม่ซาวด์ให้ ดิฉันกลับบ้านโดยไม่ได้ตรวจอะไรเลย วันนี้ดิฉันได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่ง คุณหมอใจดีซาวด์ให้แต่ก็ไม่พบอะไร คุณหมอตรวจปัสสาวะอีกรอบก็ไม่เจอ หมอแนะนำว่าให้ดิฉันไปพบหมอสูตินรีเวช แต่ดิฉันไม่รู้ว่าถ้าไปพบแล้วดิฉันจะถามคุณหมออะไรยังไงบ้าง จึงขอถามคุณหมอณที่นี้ว่า 1.ดิฉันจะตั้งครรภ์หรือไม่โอกาสในการตั้งครรภ์เท่าไหร่ 2.หากดิฉันไม่ได้ตั้งครรภ์แล้วทำไมประจำเดือนถึงไม่มา 3.ดิฉันจะมีโอกาสที่จะเป็นโรคอื่น เช่นมะเร็งหรืออะไรไหมคะ.(ขอโทษที่อาจถามโง่ๆนะคะ ดิฉันกังวลมากค่ะ) ปล.ที่ดิฉันไม่ทานยาคุมเพราะไม่ได้มีพสพ.ทุกฝันและกลัวลืมทานค่ะ --ประจำเดือนครั้งล่าสุดวันที่29/1/61 ดิฉันปวดประจำเดือนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปวดจนเนื้อตัวเย็นหมด ไม่มีแรง โดนหามส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน หมอบอกว่าอาจมีอาการแท้ง หมอเจาะเลือดไปตรวจก็ไม่พบอะไร ไม่ได้ท้องแล้วไม่ได้แท้ง หมอบอก (ปจด.มา3วันค่ะ 29-31/1/61 ปกติจะมา3-5วันค่ะ) --ที่ดิฉันคิดว่าตัวเองอาจกำลังตั้งครรภ์เพราะดิฉันมีอาการแปลกๆค่ะ(หน้าอกดิฉันใหญ่ขึ้น เหมือนมีเส้นเลือดเขียวๆรอบอก,ท้องโตขึ้น กางเกงตัวเก่าใส่แล้วรู้สึกแน่นขึ้น,ปวดเอว,ปวดหลัง,ตกขาวเยอะจนเปียก กกน.ประมาณอาทิตย์นึงค่ะ,รู้สึกท้องแข็งๆเหมือนมีอะไรอยู่ข้างใน --รอบเดือนของดิฉันมาทุกเดือนค่ะ ไม่เคยขาด แต่จะมาช้าประมาณ7-10วันค่ะ
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.36 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

26 มีนาคม 2561 03:54:59 #2

จากประวัติที่คุณบอกมาไม่ควรมีการตั้งครรภ์ค่ะ ในกรณีที่คุณตรวจอัลตราซาวด์แล้วไม่พบความผิดปกติ สาเหตุน่าจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ที่เรียกว่าพีซีโอเอส คุณสามารถรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพื่อให้ประจำเดือนมาได้โดยทานนานประมาณ 7-10 วัน รอบเดือนก็จะมา สามารถไปปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อหาซื้อฮอร์โมนตัวนี้มาทานได้ค่ะ ลักษณะดังกล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องมะเร็งค่ะ ไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะมีบุตรควรจะต้องรับประทานยาคุมหรือสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย อาการปวดประจำเดือนอาจจะเกิดจาก โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ไม่เกี่ยวกับการแท้งบุตรหรือเกิดจากร่างกายมีสารพลอสตาแกลนดินมากจนทำให้เกิดการบีบเกร็งของตัวมดลูกและลำไส้ในช่วงที่มีประจำเดือน ถ้ามีอาการปวดมากก็สามารถทานยากลุ่มพอนสแตนเพื่อบรรเทาอาการปวดได้ค่ะ สำหรับช่วงนี้คุณน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เพราะมีหน้าอกใหญ่ขึ้นมีเส้นเลือดเขียวคล้ำ ท้องอืด อาการต่างๆ สามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แนะนำว่าคุณควรไปหาซื้อฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนมาทานเพื่อให้รอบเดือนมาตามปกติ คุณจะได้รู้สึกสบายตัวขึ้นค่ะ
________________________________________

M199*****8

29 มีนาคม 2561 09:10:34 #3

ขอบคุณคุณหมอที่มาตอบให้นะคะ วันที่24ดิฉันซื้อยาสตรีมากินค่ะ แต่กินแค่วันเดียวเพราะวันที่25ดิฉันต้องไปต่างจังหวัดค่ะ ไม่ได้เอายาไปทานด้วย วันนี้(29/3/61) ดิฉันมีประจำเดือนค่ะ ดิฉันคิดว่ารอประจำเดือนรอบนี้หมดแล้วดิฉันอยากไปฉีดยาคุมค่ะ ดิฉันไม่ทานนะคะ กลัวลืมค่ะ กะว่าไปฉีดทีเดียวเลย หมอช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

31 มีนาคม 2561 17:13:05 #4

การฉีดยาคุมกำเนิดนั้นจะต้องเริ่มฉีดยาในช่วงไม่เกินวันที่ 5 ของรอบเดือน เช่น ถ้ารอบเดือนมาวันแรกคือวันที่ 29 มีนาคม คุณสามารถไปฉีดยาคุมได้ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมจนถึงวันที่ 2 เมษายนไม่ควรเกินจากนี้ค่ะ ยาฉีดคุมกำเนิดคือฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูง จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์โดยไปกดการตกไข่และทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้นจนตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปได้และยังทำให้ท่อนำไข่มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลงซึ่งจะช่วยป้องกันการปฏิสนธิได้ ยาฉีดคุมกำเนิดจะต้องฉีดทุก 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือนไม่ควรลืมฉีดยา อาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงคือเลือดออกผิดปกติกะปริบกะปรอย ถ้าฉีดไปนานๆก็อาจจะทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ และถ้ายังไม่เคยมีบุตรก็อาจจะทำให้มีบุตรยากได้เช่นกัน ดังนั้น ควรจะต้องพิจารณาเรื่องการคุมกำเนิดให้ดี ด้วยค่ะ
________________________________________