กระดานสุขภาพ

อยากทราบว่าเป็นอาการของอะไรครับ
Anonymous

14 พฤศจิกายน 2560 16:22:21 #1

เมื่อวันที่ 23/9/60 และ 07/10/60 ผมได้ไปตรวจhivมาครับที่ครีนิคนิรนามทั้งสองครั้งไม่พบครับ แต่วันที่07/10/60 ผมได้ตรวจซิฟิลิสด้วยแต่ก็ไม่เจอครับและหลังจากนั้นผมมีอาการลิ้นเป็นฝ้าครับและมีแผลหรือเปล่าไม่ทราบไม่มีอาการครับและผมมีอาการมองไฟแล้วเเสบตาแสงมันจะจ้าออกครับท้องเสียบ้างครับสามวันทีแล้วก็หายแล้วก็เป็นและล่าสุดได้ไปพบหมอเค้าให้ตรวจเลือดhivแต่ไม่เจอครับไม่มีแผลที่อวัยวะนะครับไช่อาการของซิฟิลิสมั้ยครับ
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

15 พฤศจิกายน 2560 15:27:38 #2

อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ส่วนซิฟิลิสนั้น มีระยะฟักตัวประมาณ 10-90 วัน ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ โดยสรุป ถ้าผลเลือดเอดส์และซิฟิลิสเป็นลบโดยตรวจที่ เดือนหลังเสี่ยง ก็แสดงว่าคุณไม่ติดเชื้อแน่นอน อาการที่เกิดขึ้นน่าจะมีจากสาเหตุอื่น

Anonymous

15 พฤศจิกายน 2560 19:13:05 #3

ขอบคุณมากครับคุณหมอ เพราะผมตรวจhivมาสามครั้งแล้วครับ และตรวจซิฟิลิชหนึ่งครั้งครับครั้งที่สองของการตรวจhiv ไม่เจอ ครับ แต่ตอนนี้ยังเป็นกังวนอยุ่ครับเนื่องจากวงที่ลิ้นมีรูปแบบกลมริมไม่เเข็งไม่เจ็บพื้นแผลเงาๆครับเป็นจุดเดียวและลิ้นใหญ่เบียดฟันครับ ยังไงขอบคุณมากๆครับที่ให้ความรุ้ครับ ...หลังจากมีความเสี่ยงก็สังเกตตัวเองครับ ลิ้นฝ้าก็พยามแปลงลิ้นครับเกียวมั้ยครับที่แปลงลิ้นแรงๆ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

16 พฤศจิกายน 2560 16:41:45 #4

ในกรณีของคุณที่ตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสแล้ว ผลเป็นลบ ก็แน่ใจได้ว่าไม่มีการติดเชื้อทั้งสองโรค ส่วนเรื่องอาการต่างๆรวมทั้งอาการที่ลิ้นน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น แนะนำว่าให้คลายความวิตกกังวล เพราะถ้ายังกลัวหรือมีความกัวลอยู่ จะเกิดกลุ่มอาการที่เรียกว่า psycosomatic disorder คือเป็นผลกระทบทางร่างกายจากจิตใจที่มีความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง จะมีอาการต่างๆเกิดขึ้นเรื่อยๆและจะเครียดมากขึ้น จนอาจจะต้องปรึกษาจิตแพทย์ โดยสรุป ไม่ติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิสแน่นอน เลิกวิตกกังวลครับ

Youe*****r

16 พฤศจิกายน 2560 17:39:52 #5

ขอบคุณครับคุณหมอ ตอนนี้ก็มีแต่ความคิดที่ยังคิดไม่เลิกจนเครียดนอนไม่กินไม่ได้ไม่คิดว่าเป็นนู้นก็คิดเป็นนี่ จนตอนนี้สภาพจิตแย่มากครับการที่สังเกตตัวเองมากไปก็ไม่ดีอยากจะออกจากปันหาที่คิดแบบนี้ครับแต่ไม่รุ้จะเลิกวิตกกังวนยังไงเพราะไม่มีที่ปรึกษาครับถ้าเกิดว่าผมไม่เครียดอาการลิ้นของผมจะหายเป็นฝ้าไช่ไหมครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

18 พฤศจิกายน 2560 05:22:02 #6

ถ้าอาการวิตกกังวลยังเป็นอยู่และทำให้กระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่นกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เครียด เหงื่ออก แนะนำหาจิตแพทย์ ส่วนอาการต่างๆรวมทั้งเรื่องฝ้าที่ลิ้น ก็จะดีขึ้นถ้าอาการทางจิตดีขึ้นครับ