กระดานสุขภาพ

ผลเลือด ออกมามีค่าFerrintin ต่ำมากค่ะ
Rabb*****5

17 ตุลาคม 2559 07:43:32 #1

สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากปรึกษาคุณหมอค่ะ

   โดยปกติตัวเองมีโรคประจำตัวคือ ไทรอยด์เป็นพิษค่ะ ทานยามาตั้งแต่กลางปี 56 โดยทานแค่ครึ่งเม็ดมาประมาณ เกือบ 2  ปีค่ะ ระหว่างนี้จะพบว่าตัวเองเริ่มมีความผิดปกติทางเลือดมาตลอด เช่น ผลของค่าเม็ดเลือดมีลูกศรชี้ลงตลอดว่าต่ำกว่าเกณฑ์ แต่คุณหมอก้อไม่ได้ให้ยาอะไรมาทานนะค่ะ ประมาณต้นปีนี้เราเลยถามคุณหมอว่าเรามีเลือดจางไหมเนื่องจากปวดหัวบ่อย หนาวง่ายมาก คุณหมอให้ทานยาบำรุงเลือด แต่ทานไม่ได้เวียนหัว จะอาเจียน ก้อเลยหยุดไป

เมื่อวันที่18สิงหาคม59 คุณหมอให้ลองหยุดยาไทรอยด์ 2 เดือนแล้วกลับมาเจาะเลือดใหม่เพื่อดูค่าไทรอยด์ว่ายังปกติหรือไม่  ค่าออกมายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ค่า Ferrintin เหลือแค่ 7 จากปกติ30-400  คุณหมอเลยส่งต่อไปหาคุณหมอโรคเลือด

คุณหมอโรคเลือดแจ้งว่า อาจจะต้องตรวจภายใน ตรวจระบบทางเดินอาหาร ตรวจอุจจาระ เพื่อดูว่ามีเลือดออกมาจากทางไหนหรือไม่

โดยตัวเอง ประจำเดือนมาปกติทุกเดือน ครั้งละประมาณ 3 วัน ไม่ได้มีมากจนผิดปกติ ไม่เคยปวดท้อง ท้องอืด ไม่ได้เป็นริดสีดวง อึก็สีปกติ   น้ำหนักไม่เพิ่มลดเกิน 1 กก.จากปกติค่ะ  อาจจะเกิดจากโภชนาการที่ไม่ดีของเราได้หรือไม่ค่ะ คือ เราไม่ทานนมมาเป็น 10ปีแล้วค่ะ เนื่องจากทานแล้วปวดท้อง ไม่ทานตับ เลือด เครื่องใน หอย

รบกวนขอคำแนะนำค่ะ  ไม่อยากตรวจภายในแบบขึ้นขาหยั่งได้ไหมค่ะ ตรวจแต่อัลตร้าซาวด์ได้หรือไม่ หรือควรจะปฎิบัติตัวยังงัยค่ะ กลัวจะเป็นมะเร็ง จะเป็นไหมค่ะ แล้วเป็นผลต่อเนื่องมาจากการกินยาไทรอยด์ หรือโรคนี้หรือเปล่าค่ะ

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 44 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

31 ตุลาคม 2559 03:49:38 #2

อาการของภาวะโลหิตจางมีได้หลากหลาย ตั้งแต่เหนื่อย เพลีย หน้ามืด ปวดศีรษะ เวียนศีรษะรับประทานอาหารน้อยลงไม่สดชื่น อาการที่คุณบอกมาเป็นอาการของภาวะโลหิตจางหรือเลือดจางได้ค่ะ

เมื่อคุณบอกค่า Ferritin ซึ่งต่ำมาก (องค์การอนามัยโลกใช้ค่าferritin น้อยกว่า 15 ไมโครกรัม/ลิตรเป็นค่าที่ใช้ในการวินิจฉัยภาวะขาดธาตุเหล็กร่วมกับภาวะโลหิตจาง ) และบอกสาเหตุจากการไม่รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กทั้งหลาย

หมอวินิจฉัยว่าคุณมีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กแน่นอนค่ะ แต่สาเหตุจะเป็นจากการขาดอาหารที่มีธาตุเหล็กอย่างเดียวหรือมีสาเหตุอื่นแฝงด้วยหรือไม่อาจต้องพิจารณาดูด้วย ในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดธาตุเหล็กแพทย์จะต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากการขาดธาตุเหล็กเพราะขาดสารอาหารที่มีธาตุเหล็กหรือเกิดจากการดูดซึมธาตุเหล็กจากทางเดินอาหารมีปัญหา เช่นในคนที่ท้องเสียเรื้อรัง หรือเกิดจากการเสียเลือดเรือรัง เช่น มีพยาธิลำไส้ หรือมีเลือดออกจากทางเดินอาหารในคนที่ชอบรับประทานยาแก้ปวดจำพวกซาลิซัยเลตเป็นประจำ ผู้หญิงที่เสียเลือดประจำเดือนมาก หรือในคนที่เสียเลือดจากมะเร็งลำไส้ เป็นต้น

สิ่งที่คุณหมอที่ดูแลคุณแนะนำนั้นหมอเห็นด้วยนะคะ การตรวจภายในไม่น่ากลัวอย่างที่คุณคิดเลยค่ะอายุเท่าคุณถือโอกาสตรวจมะเร็งปากมดลูกไปด้วยเลย ถึงแม้ไม่ได้มีภาวะโลหิตจางก็ควรตรวจค่ะการตรวจอัลตร้าซาวน์จะตรวจได้ระดับหนึ่งคือเมื่อมีก้อนแล้ว หรือก้อนโตแล้ว แต่การตรวจภายในนอกจากแพทย์จะตรวจคลำเพื่อหาว่ามีก้อนที่โตผิดปกติที่แพทย์จะคลำได้หรือไม่ก็ได้โอกาสตรวจมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากในผู้หญิงและการตรวจพบระยะแรกมีผลการรักษาดีด้วยค่ะส่วนการตรวจทางเดินอาหารส่วนล่างแพทย์คงพิจารณาดู หรือตรวจอุจจาระดูก่อนว่ามีเลือดปนหรือไม่ในปัจจุบัน ในผู้ใหญ่ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก การตรวจทางเดินอาหารถือเป็นการตรวจที่จำเป็นอย่างหนึ่ง ทั้งนี้แพทย์อาจดูปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ประวัติมะเร็งทางเดินอาหารโดยเฉพาะที่ลำไส้ใหญ่ในครอบครัว หากมีประวัติอาจแนะนำให้ทำอย่างยิ่ง การที่คุณได้รับการรักษาไทรอยด์เป็นพิษ ยารับประทานที่ใช้รักษาโรคนี้ อาจทำให้เกิดเม็ดเลือดขาวต่ำไม่ค่อยทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ยกเว้นรักษาจนภาวะไทรอยด์ต่ำ อาจทำให้โลหิตจางได้

การรักษาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก คือการรักษาสาเหตุและให้รับประทานยาธาตุเหล็กเป็นเวลาประมาณ 3 เดือนโดยเมื่อรักษาไปหนึ่งเดือนระดับความเข้มข้นของเลือด คือฮีโมโกลบิน (hemoglobin) หรือค่าปริมาตรเม็ดเลือดแดงอัดแน่นคือฮีมาโทคริต (hematocrit) จะกลับมาปกติ แพทย์จะให้รับประทานยาต่อไปจนครบเพื่อร่างกายจะมีธาตุเหล็กสะสมไว้ และขณะเดียวกันต้องให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก ได้แก่ เนื้อสัตว์ เลือดสัตว์ ตับ ผักใบเขียว และควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีด้วยเพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเพื่อจะได้ไม่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอีก เมื่อรับประทานยาที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ อุจจาระจะมีสีดำ มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมีท้องผูกท้องเสียและปวดท้องได้ การรับประทานยาหลังอาหารตอนท้องไม่ว่างจะช่วยแก้ปัญหา เรื่องอาการคลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องได้ และมีการศึกษาว่าการรับประทานยาหลังอาหารไม่ได้ทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กลดลงมากนักแต่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการรับประทานยาได้ดีขึ้น

ขออวยพรให้คุณโชคดีค่ะ

ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ