กระดานสุขภาพ

มีจุดแดงๆ ตัวหัวเห็ด กระจายเต็มไปหมดครับ
Anonymous

12 กรกฎาคม 2559 05:55:59 #1

คือผมเป็นจุดแดงๆ กระจายอยู่เต็มหัวเห็ดเลยครับ แต่ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่คันครับ อยากทราบว่าผมเป็นโรคอะไรอะครับ

อันนี้รูปผมก็อปมาจากกูเกิ๊ลนะคับ มีอาการแบบนี้เลย

http://haamor.com/media/images/webboardpics/06370-29981.jpg

อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 88 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.40 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

13 กรกฎาคม 2559 03:36:45 #2

ดจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มนูนๆ แดงๆ ขนาดเล็กหลายตุ่มที่ส่วนหัวของอวัยวะเพศ อาจจะเกิดจากโรคผิวหนังทั่วไปหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงทางเพศ ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เที่ยวผู้หญิง มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง อาจเป็น

  1. หิด เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสอย่างใกล้ชิด นอกจากมีตุ่มบริเวณอวัยวะเพศแล้ว มักจะมีตุ่มคันที่หน้าท้อง รอบเอว และง่ามนิ้วมือ รักษาโดยให้อาบน้ำ ฟอกสบุ่ให้สะอาด ใช้ยา hexin ทาทั่วตัวตั้งแต่คอลงมา ถึงปลายมือปลายเท้า ทิ้งไว้ 24 ชม. ถ้าอาบน้ำค้องทาซ้ำ หลังจากนั้น รอจนครบ 1 อาทิตย์ ให้ทาซ้ำอีก 1 ครั้ง ให้รักษาคนที่อยู่ใกล้ชิด นอนเตียงเดียวกัน และทำความสะอาดเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม
  2. หูดหงอนไก่ จากเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) เป็นติ่งเนื้อออกสีชมพู มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อเล็กๆคล้ายหงอนไก่หรือดอกกระหล่ำ รักษาโดยการจี้ยา หรือจี้ไฟฟ้า เลเซอร์
  3. หูดข้าวสุก เกิดจากเชื้อไวรัส Molluscum contagiosum เป็นตุ่มมีรอยบุ๋มตรงกลาง บีบดูจะมีสารสีขาวขุ่นคล้ายข้าวสุก รักษาโดยการบีบเอาสารตรงกลางตุ่มออก แล้วทายาฆ่าเชื้อ

ถ้าไม่มีความเสี่ยง อาจเป็นโรคผิวหนังจากการแพ้ ระคายเคืองสารที่สัมผัส มีการเกาจนเป็นตุ่ม เรื้อรัง รักษาโดยใช้ยากินแก้แพ้และยาทา หรืออาจเป็นเชื้อรา

สรุป ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและลักษณะของตุ่ม แนะนำหาหมอหรือให้ประวัติทางเพศและส่งรูปถ่ายที่ถ่ายจากของจริงมาเพิ่มเติม

Anonymous

13 กรกฎาคม 2559 05:12:11 #3

คือผมมีอะไรกับแฟนแค่คนเดียวครับ แต่ครั้งล่าสุดก็ประมานปลายเดือนมีนาคมครับ แต่พักหลังผมช่วยตัวเองบ่อยมาก เกือบทุกวันครับ ไม่เที่ยวผู้หญิง ไม่เที่ยวกลางคืนครับ ชอบออกกำลังกาย ไม่มีอาการคันเลยครับ อาการเจ็บก็ไม่มี ผมควรซื้อยาตัวไหนมาทาไหมครับ รบกวนด้วยครับคุณหมอ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/06370-29981-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/06370-29981-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/06370-29981-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/06370-29981-4.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

15 กรกฎาคม 2559 03:34:11 #4

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นแดงๆที่บริเวณส่วหัวอวัยวะเพศ ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะเป็นโรคติดต่อที่พบบ่อยคือเริม แต่จะต้องมีตุ่มน้ำใสๆแล้วแตกเป็นแผล ถ้าตุ่มที่คุณเป็นไม่ได้เป้นตุ่มน้ำใสๆก่อน เป็นแค่ผื่นตามที่ส่งรูปมาก็อาจจะไม่ใช่เริม อีกโรคที่ต้องระวังโดยเฉพาะในชายรักร่วมเพศ คือผื่นของซิฟิลิสระยะที่สอง ที่อาจจะเกิดขึ้นตามเยื่อบุอ่อนๆ แต่อาจจะมีน้ำเหลืองออกจากตุ่ม สามารถตรวจเลือดซิฟิลิสเพื่อการวินิจฉัยโรคได้ โดยสรุป ถ้าไม่มีความเสี่ยง ก็น่าจะเกิดจากเชื้อราและความอับชื้นร่วมกับการแพ้หรือการเสียดสีจากการร่วมเพศหรือสำเร็จความใคร่ แต่ถ้ามีความเสี่ยง แนะนำหาหมอครับ

Anonymous

15 กรกฎาคม 2559 14:03:01 #5

ขอบคุณมากครับคุณหมอ