กระดานสุขภาพ

ตั้งครรภ์หรือปล่าว
Anonymous

18 กุมภาพันธ์ 2559 07:42:02 #1

สวัสดีต่ะคุณหมอ คือว่า ประจำเดือนล่าสุดมาเดือนมกราคม วันที่9-11 ค่ะ มาแบบไมรเยอะพอประมาณค่ะ พอเดือน กุมภาพันธ์ มาวันที่ 7-11ค่ะ มาปกติเหมือนกันค่ะ วันแรกมาแบบไมาเยอะน่ะแบบไม่ท้วมป้าอนามัยและไม้บ้นผ้าอนามัย หลังจากนั้น วันที่12กุมภาพั น รู้สึกมึน หัว และอาการคลื่นไส้ .หนาวๆๆสั่นๆๆเลยติดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโอร์โมน ค่ะ แต่พอไปวัดความดัน ขึ้น101เลยเอะใจ อาการเริ่มเปลี่ยนๆคือมีอาการปวดท้องน้อยแบบหน่วงๆ และบางครั้งก้อปวดคล้ายมาประจำเดือนแบบนี้สองวัน หลังจากนั้น ก้อมีอาการ ปวดท้องน้อยแบบเสียดๆๆ ความดันจะคงที่108/77/83 ล่าสุด บางครั้งก้อปวดท้องคล้ายประจำเดือนค่ะ บางตรั้งก้อจะปวดเอว ด้านหลังเวลาเราตะโกนมันไม่เต็มเสียงมันจะปวดที่ท้องน้อยบางคนั้งเหมือนมีอะไรไหลแตไม่ไหลต่ะ บางวันก้อปัสสาวะเล็ดๆๆบางครัเงจะปวดปัสสาวะตอนกลางคืน ไม่มีตกขาว มีแค่ปวดท้องน้องตรงอุ้งเชิงกราง....16-18 ต่ะของเดือนนี้ อยากทนาบว่าเป็นอาการตัังครรภ์ไหมต่ะ ตอนนนีีทานโอบีมิน azค่ะ .ยังไม่ได้ซื้อที่ตรวจครรภ์ ค่ะ
อายุ: 29 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.90 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

25 กุมภาพันธ์ 2559 17:55:31 #2

จากอาการต่างๆนั้น เรื่องความดันถือว่าปกตินะครับ และ ช่วงที่เจ็บปวด อาจสูงขึ้นได้เล็กน้อยครับ ในเรื่องอาการปวดประจำเดือนนั้น โดยปกติแล้วอาการปวดนี้จะมีได้อยู่แล้วในผู้หญิงทุกคนในทุกๆรอบเดือนครับ แต่อาการนี้จะไม่ปวดมาจนทำให้ทำงานหรือดำเนิดชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ย่ิงหากเดิมไม่เคยปวดเช่นนี้มาก่อน และ หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ประจำเดือนมามากทั้งปริมาณและจำนวนวันหากเทียบจากเดิมที่เคยเป็น หรือมีอาการ กะปริดประปรอย อ่อนเพลีย หรือ ใช้ยาแก้ปวดมาก ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุก่อนครับ ส่วนในเรื่องที่กังวลเรื่องการตั้งครรภ์นั้น หากในช่วงที่ผ่านมานั้น มีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่อวัยวะเพศและไม่ได้ป้องกัน ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ และหากต้องการทราบว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ควรการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะในช่วงที่ประจำเดือนไม่มาหรือขาดหายไปประมาณ 1 สัปดาห์จากวันที่ควรจะมา หรือ ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ผลที่ได้จะน่าเชื่อถือครับ

ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ

อีกประการหนึ่ง การทานยาวิตามินที่กล่าวมานั้น ซึ่งมีส่วนประกอบของธาตุเหล็กนั้นจะทำให้มีอาการคลื่นไส้และวิงเวียนศรีษะได้ครับ หากไม่ได้ตั้งครรภ์หรือมีข้อบ่งชี้อื่นๆ ก็ไม่ควรทานนะครับ