กระดานสุขภาพ
ยากดภูมิคุ้มกันโรคไตเนโฟติก กับการตรวจ HIV ครับผม | |
---|---|
5 ตุลาคม 2558 01:49:47 #1 สวัสดีครับคุณหมอ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ |
|
อายุ: 24 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.95 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
17 ตุลาคม 2558 17:51:53 #2 การตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเอดส์หรือไม่ วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณที่ถามเรื่องการกินยากดภูมิคุ้มกัน ขอตอบรวมๆว่า ไม่มีผลต่อการตรวจ NAT เพราะเป็นการตรวจเชื้อหรือแอนติเจน แต่อาจมีผลต่อการตรวจแอนติบอดี เช่นอาจทำให้ภูมิต้านทานน้อยหรือเกิดขึ้นช้ากว่าปกติในคนทั่วๆไป ในกรณีนี้ อาจจะต้องตรวจซ้ำที่ 3 และ 6 เดือนหลังมีความเสี่ยง แต่ไม่ควรหยุดกินยาเพราะอาจมีผลข้างเคียงได้ แนะนำหาหมอที่รักษาอยู่ครับ นพ.อนุพงศ์ |
Pong*****e |
20 ตุลาคม 2558 06:54:39 #3 ขอบคุณคุณหมอมากครับ |
Pong*****e |
20 ตุลาคม 2558 07:08:54 #4 ถ้าผมตรวจด้วยน้ำยา gen4 ที่คลินิกนิรนาม ถึงแม้ว่ายาที่ผมทานอาจจะกดให้ antibody ขึ้นช้าจนตรวจไม่พบ แต่ถ้าผมมีเชื้อจริงๆยังไงก็ตรวจแอนติเจนพบใช่มั้ยครับ เพราะเห็นบอกว่าน้ำยา Gen4 ตรวจได้ทั้ง antibody และ antigen เลย |
Pong*****e