กระดานสุขภาพ

ควรหาโรงพยาบาลไหนดีค่ะ
Anas*****p

18 กรกฎาคม 2558 13:52:30 #1

หนูเคยเป็นลมลักษณะหายใจหอบหนักตัวชามือจีบตาลอย ไม่รู้สึกตัว ตอนนั้นก็คิดว่าเป็นลมธรรมดาก็ไม่ได้คิดไรมาก แต่เมื่อ2เดือนที่แล้ว ต้องผ่าตัดนิ้วเท้าครั้งที่5 และต้องโดนฉีดยาชาหลายที่ ทุกครั้งที่ผ่าตัดจนครั้งที่5นี้รู้สึกไม่ไหวกลัวเข็มมาก พอหมอเดินเข้าห้องผ่าตัดมาก็ชัก หายใจหอบ หมอก็ให้พยาบาลหน่วยฉุกเฉินห้องผ่าตัดมา หนูเหมือนได้ยินเขาบอกว่า เด็กเป็นไฮเปอร์เวน แล้วพยาบาลก็เอาที่ครอบปากแบบที่บีบได้มีกครอบ แต่หนูไม่รู้สึกตัวอะไร สักพักประมาณ5นาทีก็หายเป็นปกติ หมอก็ถามว่าไหวไหม หนูก็บอกว่าไหม หมอบอกว่าหมอจะฉีดยานะ พอหมอฉีดที่แรก หนูก็เป็นอาการนั้นอีกประมาน10นาที แล้วก็รู้สึกว่าจะเป็นลม พอฟื้นจากเป็นลมหมอยังทำไม่เสร็จ หนูก็เป็นอีกจนหมอให้ไปนอนห้องพักฟื้นในขณะที่หนูก็ยังเป็นอยู่ ตอนเขาเอาแผ่นสไลด์มาเสียบใต้ตัวเพื่อเปลี่ยนเตียงอาการหนูก็เป็นอีก และหนักมา ได้ยินแต่เสียงหมอตะโกนบอกว่าเด็กชัก ตาลอย ไม่หายสักที พอถึงห้องพักฟื้น พยาบาลก็เปลี่ยนเป็นเอาถุงพลาสติกครอบปาก แต่ก็กลับเป็นหนักกว่าเดิม พอรู้สึกตัวบ้างหมอเอาเครื่องวัดความดักกัยเครื่องวัดออกซิเจนมาวัด ค่าเป็นอย่างไรไม่ทราบเหมือนกันเพราะไม่รู้สึกตัวแต่ตาพอมองเห็นพยาบาลอยู่ มามุงรอบเตียงสีหน้าตกใจกัน สักพักก็ย้ายไปนอนอีกมุมหนึ่งใส่เครื่องช่วยหายใจ อาการหายไปครั้งหนึ่ง ประมานสองนาทีเป็นอีกหนักมาก พยาบาลในห้องพักฟื้นตะโกนเรียกหมอ หมอมาปลดเสื้อหนูเร่งออกซิเจนเครื่องช่วยหายใจ เอาปุ่มๆมาติดที่ตัวหนู ให้น้ำเกลือ แล้วพยายามเรียกหนู หนูได้ยินเสียงแต่ไม่ตอบสนองอะไรได้ รู้สึกเหมือนคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้นจนขณะที่เป็นอยู่สักพักหนึ่งได้ยินเสียงเครื่องวัดความดัดวัดอัตราการเต้นของหัวใจเครื่องๆต่างก็ดังขั้น หมอวิ่งเข้ามา พยายามตะโกนเรียกหนู แต่หนูรู้สึกอ่อนแรงมาก หมอเอาสายยางมารัดแขนหนูแล้วก็ให้ยาหนูในท่อน้ำเกลือ จนหมอดูอาการแล้วว่าไม่ไหวจึงให้แอดมิด ครั้งนึงตาลอย หมอเรียกไม่รู้ากตัว หนูกลั้นหายใจ แต่หมอฉีดยาอะไรไม่รู้สักพักก็หาย สักพักหมอให้ไปห้องผู้ป่วย หน้าบวมมากเลยคะตาลืมไม่ได้ แต่พอถึงหอผู้ป่วยก็ดีขึ้น ยังคงใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ พออาการดีขึ้น พยาบาลเอาเครื่องช่วยหายใจออก หนูรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก หายใจเร็วแต่หนูพยายามบังคับการหายใจ แล้วก็ดีขึ้น แต่หนูนอนไม่หลับเพราะเวลานอนหนูรู้สึกจะหายใจเร็ว เลยไม่กล้านอน ประมานตี2หมอผ่าตัดคนไข้เสร็จหมด มาดูหนูที่ห้องพัก หมอถามว่ายังไม่นอนอีกหรอ หนูก็บอกว่าไม่กล้านอน แต่หมอก็ไม่ได้ถามอะไร ตอนเช้า มีพยาบาลมาล้างแผล หนูเป็นไฮเปอร์เวนอีก พยาบาลเอาถุงมาครอบแล้วใส่เครื่องช่วยหายใจแบบที่ครอบออกซิเจน เมื่อวันก่อน หนูโดนเพื่อนเหยีบแผล รือเพื่อนโดนผลักมาแล้วส้นเท้ามาเหยียบแผลเต็มๆ ตอนแรกก็ร้องให้แต่สักพักนึงก็รู้สึกหอบหนักแล้วไม่รูเสึกตัว รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่ห้องพยาบาลแล้ว หนูกลัวจังเลยคะอยากให้มันหายไปจังเลยคะหาหมอที่ไหนดีคะ กลัวเป็นเหมือนตอนผ่าตัดอีก รู้สึกเกือบตายแล้ว
อายุ: 13 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.15 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

21 กรกฎาคม 2558 08:54:22 #2

น่าเห็นใจครับ ใครไม่เป็นแบบคุณไม่รู้หรอกว่ามันน่ากลัวยังไง เข้าใจความรู้สึกของคุณครับ

ทั้งหมดเป็นจากความคิดของคุณเองครับ
คนเราเมื่อจินตนาการว่ามันจะเกิดอันตรายและเกิดนั่นนี่ตามมา อารมณ์ของเราก็จะเกิดความกลัวตามขึ้นมา และความกลัวนี้จะทำให้สมองของเราสั่งการให้เกิดอาการอย่างที่คุณเป็นขึ้นมา แต่ทั้งหมดไม่มีอันตรายอะไร เพียงแต่มันดูน่ากลัวเท่านั้นเอง ถ้าคุณสลัดความกลัวออกไปได้ อาการที่เคยเป็นมันจะหายไปเอง

ตอนนี้คุณกลัวว่าการผ่าตัด แผลผ่าตัดมันจะทำให้คุณเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่คุณคิด และกลัวไปเอง

วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือการเผชิญหน้ากับความกลัวครับ และอยากให้คุณฝึกตัวเองตามนี้เพื่อควบคุมความกลัวของคุณเอง

1. หาที่นั่งสบายๆ แล้วนั่งลง จากนั้นฝึกหายใจเข้าช้าๆ ยาวๆ กลั้นหายใจเอาไว้ให้นานที่สุด แล้วค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกมาช้าๆ จนสุด แล้วเริ่มหายใจเข้าไปใหม่ ทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาไปเรื่อยๆ

2. ควบคุมให้ความคิดของตัวเองจดจ่ออยู่กับลมหายใจที่ผ่านเข้าออก จนรู้สึกว่าความคิดมันนิ่งอยู่กับการหายใจเข้าออก และรู้สึกว่าตัวเองผ่อนคลายมากที่สุด

3. เมื่อรู้สึกว่าตนเองผ่อนคลายดีแล้วให้จินตนาการว่าตนเองกำลังจะถูกผ่าตัดอีกครั้ง หมอกำลังจะฉีดยาให้ และลองสังเกตความรู้สึกว่าตัวเองกลัวมั้ย ถ้ากลัวให้หายใจเข้าออกช้าๆ ตามที่ได้ฝึกไว้ ทำจนกว่าความรู้สึกกลัวมันลดลง

4. ฝึกแบบนี้ก่อนเข้านอนทุกวัน วันละประมาณ 30 นาที จนกระทั่งเวลาที่คิดว่าตัวเองกำลังจะถูกผ่าตัดแล้วความรู้สึกกลัวมันไม่เกิดขึ้น

5. เมื่อไปหาหมอ จะตัดไหมหรือผ่าตัดใหม่ก็ตาม ให้ใช้วิธีหายใจเข้าออกช้าๆ ที่ได้ฝึกไว้นี้ข่มความกลัวที่มันกำลังเกิดขึ้น

6. ท่องไว้ในใจเพื่อเตือนตัวเองตลอดว่าการฉีดยา การผ่าตัด ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายจนถึงชีวิต เพราะฉะนั้นคุณจะไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น

ลองทำตามนี้ดูนะครับ ทำให้ชำนาญก่อนที่จะไปพบหมอครั้งต่อไป

ขอเอาใจช่วยให้คุณผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร