กระดานสุขภาพ

ปรึกษาเรื่องการใช้กับริดสีดวงครับ
Anonymous

4 ตุลาคม 2557 11:41:55 #1

คือผมมียาริดสีดวง *** อยุ่ที่บ้านเพราะมีคนในบ้านเป็น แล้วผมก็เพิ่งเป็น มีติ่งเนื้ออกมา ไม่ปวด ไม่มีเลือด แต่แสบเวลากระทบกระเทือน อยากถามว่าควรใช้ยาในปริมาณเท่าไหร่ครับ (เพราะเห็นในกระทู้บอกว่าควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้)

อายุ: 16 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.83 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

6 ตุลาคม 2557 03:53:03 #2

ถึง คุณ 52d38

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ 52d38 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

7 ตุลาคม 2557 07:26:59 #3

เรียน คุณ 52d38,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆมาด้วย ขอแยกตอบเป็น 2 ส่วนนะครับ คือเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ในการรักษา และส่วนของการดูแลร่างกาย/การปรับพฤติกรรมสุขภาพ

- ตัวยาที่คุณสอบถามมานั้น เป็นสารสกัดจำพวก Flavonoids ได้จากพืชตระกูลส้ม มีคุณสมบัติช่วยให้หลอดเลือดส่วนปลายมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งหลอดเลือดที่ทวารหนัก (ริดสีดวงทวาร) และที่ขา (เส้นเลือดขอด) ขนาดยาที่ใช้ขึ้นกับอาการและความรุนแรงของโรค โดยขนาดยาที่บริษัทแนะนำคือ 3 วันแรก รับประทานยา 2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร จากนั้นปรับลดลงเหลือครั้งละ 1 เม็ด เช้า เย็น หลังอาหาร ควรรับประทานยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันทีเพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการรับประทานยา ระยะเวลาที่รักษาส่วนใหญ่ประมาณ 14-30 วัน ทั้งนี้ขึ้นกับผลการตอบสนองของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

- ส่วนของการรักษาที่สาเหตุ ต้องมีการปรับพฤติกรรมสุขภาพร่วมด้วย มิฉะนั้นจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ได้แ่ก

  • การเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งขัดสี อาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากไม่ทำให้มีกากใยในทางเดินอาหาร เลือกจำพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ไรซ์เบอร์รี ขนมปังโฮลวีต ผลไม้เลือกจำพวกที่มีกากใยสูง เช่น ฝรั่งสุก กล้วยน้ำว้า มะละกอสุก เลี่ยงจำพวกแตง เนื่องจากมีน้ำมาก แต่กากใยค่อนข้างน้อย วิธีการปรุง ควร เลือกการนึ่ง ต้ม หรือ อบ มากกว่าการทอด เพื่อให้คงคุณค่าอาหาร เส้นใยไม่ถูกทำลาย ไม่อมน้ำมันด้วย
  • ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายสดชื่น ขับถ่ายสะดวก เนื่องจากอุจจาระไม่แข็ง ไม่ทำให้เจ็บบริเวณทวารหนักด้วย
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ช่วยกำจัดของเสียออกทางเหงื่อ ลำไส้ได้มีการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ในช่วงอายุคุณน่าจะสูงได้อีก ควรเลือกออกกำลังกายแอโรบิกหลาย ๆชนิด เช่น บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ หรือแบดมินตัน
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรเข้านอนก่อน 23.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงทื่ร่างกายมีการหลั่ง Growth Hormone จากต่อมใต้สมอง ช่วยให้มีการเจริญเติบโตซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายด้วย และจะไม่แก่เร็วอีกด้วย การเข้านอนดึก แม้จะนอนตื่นสาย รวมแล้วได้ 6-8 ชั่วโมง ก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน เนื่องจากเลยช่วงเวลาที่มีการหลั่ง Growth Hormone ไปแล้ว การนอนน้อยจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด ต่อมหมวกไตจะหลั่งสารความเครียดจำพวกสเตียรอยด์ ทำให้ร่างกายบวมน้ำ ไขมันสูง เสี่ยงต่อเบาหวาน รวมถึงกระดูกบางด้วย ในช่วงวัยรุ่นจะพบว่าเป็นสิวง่าย แผลหายยาก มักเกิดรอยแผลเป็นง่าย
  • การเข้าห้องน้ำ ควรปรับให้เป็นเวลา ไม่ควรนั่งนานเกินไป ไม่ควรเบ่งถ้าไม่ปวด เนื่องจากจะทำให้หูรูดและหลอดเลือดพองตัวออก เมื่อพองมาก ๆจะเสี่ยงต่อการฉีกขาดและเลือดออกได้

สรุปการใช้ยาเป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมสุขภาพ ก็จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก และมักมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆจนอาจต้องมีการผ่าตัดซ่อมแซมหูรูดทวารหนัก

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดีๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids or piles)

โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์

ยาริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids medications) โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร