ไอโอดีนกับพัฒนาการของสมองเด็ก (ตอนที่ 1)

ไอโอดีนกับพัฒนาการของสมองเด็ก

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ว่า สภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน (International Council for Control of Iodine Deficiency Disorders) ได้ทูลเกล้าถวายเหรียญทอง ICCIDD แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2540 จากพระมหากรุณาธิคุณในการวินิจฉัยปัญหาและพระราชทานแนวทางการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน

รัฐบาลจึงได้กำหนดให้วันที่ 25 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นองค์ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 ส่งผลให้โรคขาดสารไอโอดีนลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม โรคนี้ยังคงเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ แม้ว่าแนวโน้มความครอบคลุมการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือนจะดีขึ้น แต่ค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีความต้องการไอโอดีนมากกว่าปกติ ยังคงมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 150 ไมโครกรัมต่อลิตร โดยสถานการณ์ปี พ.ศ. 2558 พบ 143.7 ไมโครกรัมต่อลิตร

ไอโอดีนมีความสำคัญในการผลิตไทรอยด์ฮอร์โมนซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมองของทารกตั้งแต่ในครรภ์จนถึงอายุ 2-3 ปี หากขาดสารไอโอดีนจะทำให้สมองเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ลดความเฉลียวฉลาด (ไอคิว) หรือระดับสติปัญญาของเด็กได้ถึง 10-15 จุด

โดยผลการสำรวจระดับไอคิวของเด็กไทย โดยกรมสุขภาพจิต พบว่าปี พ.ศ.2554 เด็กประถมศึกษาปีที่ 1 มีไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 94 จุด และในปี พ.ศ.2557 อยู่ที่ 93.1 จุด ลดลง 0.9 จุด

ด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินโครงการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรการหลัก คือ การใช้เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน ประชาชนบริโภควันละไม่เกิน 1 ช้อนชา ก็จะได้ไอโอดีน 150 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อความต้องการต่อวัน ส่วนมาตรการเสริม ได้แก่

  1. การจ่ายยาเม็ดเสริมไอโอดีน เหล็กและกรดโฟลิกแก่หญิงตั้งครรภ์ทุกรายตลอดการตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด 6 เดือนที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
  2. มาตรการเสริมไอโอดีนในน้ำดื่ม ในโรงเรียน 733 แห่ง ในพื้นที่ห่างไกลยากแก่การเข้าถึงเกลือเสริมไอโอดีน ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
  3. มาตรการสู่ความยั่งยืน ด้วยการพัฒนาระบบเกลือเสริมไอโอดีนอย่างยั่งยืน โดยการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ 3 ส่วน คือ การผลิตที่เพียงพอทั่วถึงครอบคลุมและมีคุณภาพ การกระจายที่ต้องมีระบบการตรวจสอบ ติดตามเฝ้าระวังเกลือที่กระจายไปสู่ร้านค้าชุมชน ต้องเป็นเกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเท่านั้น

และสิ่งสำคัญที่สุด คือ ประชาชนต้องมีความรู้ และเกิดความตระหนักและให้ความสำคัญกับการได้รับสารไอโอดีนจากการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

แหล่งข้อมูล

1. สธ.เผยสารไอโอดีนช่วยสมองเจริญเติบโตเต็มที่ จับมือ4 กระทรวงพัฒนาระบบเกลือเสริมไอโอดีนอย่างยั่งยืน. http://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=84146 [2016, July 8].