ไอริโนทีแคน (Irinotecan)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาไอริโนทีแคน(Irinotecan) ทางคลินิกใช้เป็นยารักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็ก สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่แพทย์จะใช้ไอริโนทีแคนเพียงลำพังหรือใช้ควบคู่ไปกับยาFluorouracil ทั้งนี้ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ และการรักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็กมักใช้ควบคู่กับยาCisplatin

รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาไอริโนทีแคนเป็นแบบยาฉีด โดยหยดยาเข้าหลอดเลือดดำ ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 6–12 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำเพื่อกำจัดยานี้ออกไปกับอุจจาระและปัสสาวะ

ข้อพึงระวังที่แพทย์จะต้องแจ้งเตือนให้ผู้ป่วยรับทราบขณะที่ได้รับยาไอริโนทีแคนมีดังต่อไปนี้ เช่น

  • หลังจากได้รับยานี้อาจมีอาการท้องเสียร่วมกับกลุ่มอาการโคลิเนอร์จิก (Cholinergic symptom) ที่จะแสดงออกมาในลักษณะ หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก เหงื่อออกมาก น้ำลายไหล มีสารคัดหลั่ง/เสมหะออกมาที่หลอดลม ซึ่งแพทย์จะใช้ยาAtropine สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยในอาการเหล่านี้
  • เกิดภาวะกดไขกระดูกเพื่อเป็นการบรรเทาภาวะดังกล่าว การปรับขนาดการใช้ยานี้ลดลงจะเป็นทางเลือกที่แพทย์มักนำมาใช้อยู่เป็นประจำ
  • อาจเกิดภาวะไตวาย ด้วยมีการเสียน้ำจากอาการท้องเสีย และ/หรืออาเจียนอย่างรุนแรง
  • ยานี้อาจทำให้เกิดพิษ(ผลข้างเคียงรุนแรง)ต่อปอดของผู้ป่วย ทำให้มีอาการหายใจขัด/หายใจลำบาก ไอ และมีไข้สูง กรณีนี้แพทย์มักจะสั่งหยุดการใช้ยานี้ทันที
  • ด้วยการทำลายตัวยาไอริโนทีแคนเกิดขึ้นที่ตับ ทำให้ผู้ที่มีสภาพตับทำงานผิดปกติ แพทย์ต้องปรับลดขนาดการใช้ยานี้ลงอย่างเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อลดผลข้างเคียงจากตัวยา
  • ยานี้มีพิษต่อเซลล์/เนื้อเยื่อปกติของร่างกายด้วย บุคลากรทางการแพทย์จะใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องแทงเข็มฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ หากการแทงเข็มทะลุหลอดเลือดฯจะเกิดการปลดปล่อยยาไอริโนทีแคนไปสัมผัสกับเซลล์/เนื้อเยื่อปกติบริเวณรอบข้างหลอดเลือดซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับความเจ็บปวดเป็นอันมาก กรณีพบเห็นรอยแดง บวม ในบริเวณที่แทงเข็มฉีดยา ผู้ป่วย/ญาติจะต้องรีบแจ้งแพทย์/พยาบาล ทันที
  • ขนาดการใช้ยานี้กับผู้ป่วยขึ้นกับเหตุผลหลายปัจจัย เช่น ส่วนสูง น้ำหนักตัว ของผู้ป่วย ความรุนแรงของโรคมะเร็ง และโรคประจำตัวอื่น แพทย์จะเป็นผู้สั่ง จ่ายยานี้พร้อมกับกำหนดระยะเวลาการใช้ยากับผู้ป่วยได้ดีที่สุด ผู้ป่วยต้องให้ความ ร่วมมือและมาโรงพยาบาล/มาพบแพทย์เพื่อรับการให้ยานี้ตามนัดหมายทุกครั้ง

นอกจากข้อพึงระวังดังกล่าวข้างต้น ยังมีกลุ่มอาการที่แพทย์ใช้เป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ป่วยใช้เป็นแนวทางสังเกตถึงอันตราย(ผลข้างเคียงรุนแรง)จากยาชนิดนี้/ยานี้ กล่าวคือ กรณีพบเห็นหรือเกิดอาการดังต่อไปนี้ ต้องรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันทีหรือภายใน 24 ชั่วโมง ได้แก่

  • เกิดอาการไข้สูง ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการหนาวสั่น
  • คลื่นไส้บ่อยจนทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ และการใช้ยาลดอาการคลื่นไส้ที่แพทย์สั่งจ่ายมาให้ไม่ได้ผล
  • อาเจียนมากกว่า 4–5 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
  • อ่อนเพลีย และไม่มีแรงพอที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย
  • เกิดแผลในช่องปาก และมีอาการ บวม แดง ของแผลดังกล่าว

องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้ยาไอริโนทีแคนเป็นยารักษาโรคมะเร็งที่สถานพยาบาลมะเร็งควรมีสำรองไว้ให้บริการกับผู้ป่วย และคณะกรรมการอาหารและยาของไทย ได้กำหนดให้ยานี้เป็นยาควบคุมพิเศษและเป็นยาอันตราย ดังนั้นการใช้ยานี้จึงต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์แต่ผู้เดียว

ไอริโนทีแคนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

ไอริโนทีแคน

ยาไอริโนทีแคนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • รักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon cancer)
  • รักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็ก (Small cell lung cancer)

ไอริโนทีแคนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาไอริโนทีแคนเป็นยาในกลุ่ม Topoisomerase inhibitor มีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ชื่อ Topoisomerase I ซึ่งมีหน้าที่ดูแลป้องกันไม่ให้สายนิวคลีโอไทด์(Nucleotide, สารสำคัญในการสร้างDNA)บน DNA พันกันจนดูยุ่งเหยิจนเป็นอุปสรรคต่อการแบ่งตัวหรือจำลองสารพันธุกรรมรุ่นใหม่ของเซลล์มะเร็ง เมื่อเอนไซม์ Topoisomerase Iไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงส่งผลให้เซลล์มะเร็งหมดความสามารถในการเจริญเติบโตและตายลงในที่สุด อย่างไรก็ตามกลไกข้างต้นยังมีอิทธิพลเกิดกับเซลล์ปกติของร่างกายได้อีกด้วย จึงเป็นผลให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ต่างๆจากยานี้ตามมา

ไอริโนทีแคนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาไอริโนทีแคน มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาฉีดที่ประกอบด้วยตัวยา Irinotecan ขนาด 100 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร, 300 มิลลิกรัม/15 มิลลิลิตร, และ 40 มิลลิกรัม/2 มิลลิลิตร

ไอริโนทีแคนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ขนาดการใช้ยาไอริโนทีแคน ต้องอาศัยพื้นที่ผิวของผู้ร่างกายป่วยเป็นเกณฑ์อ้างอิงสำหรับคำนวณขนาดการให้ยา นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังต้องมารับการฉีดยานี้ตามรอบหรือระยะเวลาของการรักษาตามที่แพทย์นัดหมายทุกครั้ง

*หมายเหตุ:

  • แพทย์อาจใช้ยารักษามะเร็งตัวอื่นร่วมในการรักษาผู้ป่วยด้วยดังได้กล่าวแล้วใน ”บทนำ”
  • กรณีได้รับยานี้เกินขนาด ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิล/Neutrophil ต่ำ ซึ่งแพทย์จะให้การรักษาโดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำกับผู้ป่วยเพื่อป้องกันการเสียน้ำของร่างกาย ร่วมกับให้ยาป้องกันการติดเชื้อ เช่น ยาปฏิชีวนะ
  • ปัจจุบันยังไม่มีตัวยาที่ใช้ต้านพิษของยาไอริโนทีแคน

เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยา ไอริโนทีแคน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไอริโนทีแคนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่รับประทานอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?

ผู้ป่วยต้องได้รับยาไอริโนทีแคน ต่อเนื่องจึงจะเกิดประสิทธิผลของการรักษา กรณีลืมหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถมารับการฉีดยานี้ จะต้องรีบติดต่อแพทย์/พยาบาล/บุคคลากรทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องดูแลรักษาผู้ป่วย เพื่อทำการนัดหมายการให้ยานี้ครั้งใหม่โดยเร็ว

ไอริโนทีแคนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาไอริโนทีแคนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น

  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง กระเพาะอาหารอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น วิงเวียน นอนไม่หลับ ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีภาวะผมร่วง ผด ผื่นคัน
  • ผลต่อระบบเลือด: เช่น มีภาวะโลหิตจาง ระดับเกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำ
  • ผลต่อตับ: เช่น เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดเพิ่มขึ้น
  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น หลอดเลือดคลายตัว/ความดันโลหิตต่ำ หัวใจขาดเลือด
  • ผลต่อไต: เช่น มีภาวะไตวาย
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น เกิดตะคริว
  • ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย: เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น เกิดพิษกับปอด/ปอดอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ หายใจขัด
  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เกิดภาวะขาดน้ำของร่างกาย

มีข้อควรระวังการใช้ไอริโนทีแคนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาไอริโนทีแคน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยากับ สตรีมีครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร
  • ดื่มน้ำวันละ 2–3 ลิตรเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีผู้คนแออัดเพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ และควร ล้างมือบ่อยครั้งในแต่ละวัน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ด้วยสภาพร่างกายขณะได้รับยาชนิดนี้จะมีเกล็ดเลือดต่ำ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด ด้วยอาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังมากยิ่งขึ้น เช่น ผื่นแพ้แสงแดด
  • ขณะที่ได้รับยาชนิดนี้ ควรต้องป้องกันการตั้งครรภ์ทั้งผู้ป่วยที่เป็นสตรีและบุรุษ สำหรับผู้ป่วยบุรุษการมีเพศสัมพันธ์กับสตรีควรใส่ถุงยางอนามัยชายทุกครั้งเพื่อป้องกันการส่งผ่านตัวยาไอริโนทีแคนไปกับน้ำอสุจิ
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์
  • พักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายฟื้นสภาพอย่างรวดเร็ว
  • กรณีมีอาการ คลื่นไส้อาเจียน ต้องรับประทานยาบำบัดอาการที่แพทย์ให้มา เท่านั้น ห้ามไปซื้อยาอื่นใดมารับประทานเองโดยเด็ดขาด
  • มาโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจร่างกายตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาไอริโนทีแคนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

ไอริโนทีแคนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาไอริโนทีแคนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไอริโนทีแคนร่วมกับ ยาPhenytoin เพราะจะทำให้ระดับยา ไอริโนทีแคนในกระแสเลือดลดลงจนส่งผลกระทบ/ผลเสียต่อการรักษามะเร็ง
  • ห้ามรับวัคซีนใดๆขณะได้รับยาไอริโนทีแคน เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จากตัววัคซีนอย่างรุนแรง และการกระตุ้นภูมิคุ้มกันจากวัคซีนมักไม่ประสบผลสำเร็จ
  • ห้ามการใช้ยาไอริโนทีแคนร่วมกับ ยาClozapine ด้วยจะทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำลงมากจนส่งผลให้มีภาวะติดเชื้อได้ง่าย
  • ห้ามใช้ยาไอริโนทีแคนร่วมกับ ยา เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อย่างรุนแรงตามมา

ควรเก็บรักษาไอริโนทีแคนอย่างไร?

ควรเก็บยาไอริโนทีแคนภายใต้อุณหภูมิ 15-30 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไอริโนทีแคนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาไอริโนทีแคน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Campto (แคมป์โต้) Sanofi Pfizer
Irinoll (ไอรินอลล์)Venus Remedies
Irinotel (ไอริโนเทล)Fresenius Kabi
Irinotesin (ไอริโนเทซิน)SC Sindan

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Camptosar, Irinomil, Irnocam, Torsirin

บรรณานุกรม

  1. http://chemocare.com/chemotherapy/drug-info/irinotecan.aspx [2018,April28]
  2. http://www.mims.com/thailand/drug/info/campto/?type=brief [2018,April28]
  3. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2014/020571s048lbl.pdf [2018,April28]
  4. https://en.wikipedia.org/wiki/Irinotecan [2018,April28]
  5. https://www.drugs.com/dosage/irinotecan.html [2018,April28]
  6. https://www.drugs.com/mtm/irinotecan.html [2018,April28]
  7. https://www.drugs.com/sfx/irinotecan-side-effects.html [2018,April28]