ไอปราโทรเปียม (Ipratropium)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาไอปราโทรเปียม (Ipratropium หรือ Ipratropium bromide) เป็นยาที่อยู่ในกลุ่ม Anticholinergic agent ถูกพัฒนาขึ้นจากประเทศเยอรมันในปี ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) มีกลไกการออกฤทธิ์ต่อผนังกล้ามเนื้อเรียบที่อยู่ตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย ทางคลินิกได้นำมาเป็นยารักษาอาการโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease) และโรคหืด (Asthma)

หลังจากร่างกายได้รับยาไอปราโทรเปียม (ยานี้ใช้พ่นทางปาก) ตัวยาก็จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 15 - 30 นาที และคงฤทธิ์การรักษาได้นานประมาณ 3 - 5 ชั่วโมง

ยาไอปราโทรเปียมจัดเป็นยาที่ปลอดภัยต่อการใช้กับสตรีที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร อย่างไรก็ตามหากใช้ยาผิดขนาดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงเช่น หลอดลมมีอาการหดเกร็งตัวและปัสสาวะไม่ออก

ยาไอปราโทรเปียมมีรูปแบบของยาแผนปัจจุบันเป็นแบบสูดพ่น ตัวยาสามารถซึมผ่านเข้าร่างกายและกระแสเลือดโดยมีการจับกับพลาสมาโปรตีนไม่เกิน 9% ตับจะคอยเปลี่ยนโครงสร้างของยาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือด

มีข้อจำกัดของการใช้ยาไอปราโทรเปียมหลายประการที่ผู้บริโภคควรทราบเช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้หรือแพ้ยาประเภท Atropine รวมถึงอนุพันธุ์ของกลุ่ม Atropine
  • การใช้ยานี้กับผู้ป่วยต่อมลูกหมากโตและผู้ป่วยด้วยโรคต้อหินจะทำให้มีอาการโรคเหล่านั้นรุนแรงมากขึ้น
  • การใช้กับผู้ป่วยที่มีการใช้ยาอื่นในกลุ่ม Anticholinergic เช่น Benztropine (ยารักษาโรคพาร์กินสัน), Diphennydramine จะทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากยาดังกล่าวได้มากขึ้น
  • การใช้ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการวิงเวียน ผู้ป่วยควรเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะและ/หรือการทำงานกับเครื่องจักรขณะที่ใช้ยานี้เพราะอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุได้
  • ยาไอปราโทรเปียมเป็นยาพ่นเข้าทางปาก ห้ามมิให้เข้าตาโดยเด็ดขาด

นอกจากนี้ยาไอปราโทรเปียมยังสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) ต่อการทำงานของระบบอวัยวะต่างๆในร่างกายได้อย่างหลากหลายเช่น มีผลต่อการมองเห็น, ต่อระบบการขับถ่ายปัสสาวะ/ระบบทางเดินปัสสาวะ, ต่อระบบการหายใจ, ต่อระบบการทำงานของหัวใจ/ระบบหัวใจและหลอดเลือด, ต่อระบบทางเดินอาหาร และต่อกล้ามเนื้อ เป็นต้น

องค์การอนามัยโลกได้ระบุให้ยาไอปราโทรเปียมเป็นยาจำเป็นต่อระบบสาธารณสุขขั้นมูลฐาน สถานพยาบาลต่างๆควรมีสำรองไว้ให้บริการต่อผู้ป่วย คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุให้ยาไอปราโทรเปียมอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติโดยต้องใช้ควบคู่กับยา Fenoterol (ยาขยายหลอดลม)

อนึ่งสูตรตำรับต่างๆของยาไอปราโทรเปียมที่มีจำหน่ายในประเทศไทยล้วนแล้วแต่เป็นสูตรผสมร่วมระหว่างยาไอปราโทรเปียมกับยาอื่นทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาเกิดได้สูงสุดนั่นเอง

ไอปราโทรเปียมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

ไอปราโทรเปียม

ยาไอปราโทรเปียมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ)/ข้อบ่งใช้เพื่อรักษาและบำบัดอาการโรคปอดอุดตันเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease maintenance)

ไอปราโทรเปียมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาไอปราโทรเปียมคือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อเรียบของผนังหลอดลมในตำแหน่งที่เรียกว่า Parasympathetic site โดยตัวยาจะยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า Acetylcholine มีผลทำให้หลอดลมเกิดการคลายตัว การหายใจสะดวกขึ้น และเป็นที่มาของสรรพคุณ

ไอปราโทรเปียมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาไอปราโทรเปียมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็นยาพ่นชนิดสารละลายที่ผสมร่วมกับยาอื่นเช่น

  • Ipratropium Br/Bromide 20 ไมโครกรัม + Fenoterol HBr/Hydrobromide 50 ไมโคร กรัมต่อการพ่นยา 1 ครั้ง
  • Ipratropium Br 0.25 มิลลิกรัม + Fenoterol HBr 0.5 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร
  • Ipratropium Br 0.5 มิลลิกรัม + Salbutamol sulfate 2.5 มิลลิกรัมต่อ 1 หลอด (unit-dose vial)
  • Ipratropium Br 0.5 มิลลิกรัม + Fenoterol HBr 1.25 มิลลิกรัมต่อ 4 มิลลิลิตร (unit-dose vial)

ไอปราโทรเปียมมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ยาไอปราโทรเปียมมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยาเช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป: ขณะมีอาการเฉียบพลันให้พ่นยา 2 - 4 ครั้ง แต่สำหรับบำบัดรักษาอาการเพื่อคงระดับการรักษา (Maintenance) ให้พ่นยา 1 - 8 ครั้ง/วัน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี: ขนาดใช้ยานี้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปียังมิได้มีการยืนยันและจัดทำในทางคลินิก การใช้ยานี้ในเด็กกลุ่มนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีไป

*อนึ่ง: สำหรับสูตรตำรับที่มีการบรรจุหลอดและใช้พ่นหมดหลอดต่อครั้งหรือที่เรียกว่า Unit-dose-vial ต้องใช้เครื่องพ่นยาที่มีลักษณะเฉพาะ (Nebuliser) โดยมากจะพบเห็นการใช้แต่ในสถาน พยาบาลเท่านั้น

*****หมายเหตุ:

  • ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาไอปราโทรเปียม ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไอปราโทรเปียมอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมพ่นยาควรทำอย่างไร?

กรณีที่ลืมพ่นยาไอปราโทรเปียมให้พ่นยาทันทีที่นึกขึ้นได้ หากเวลาใกล้เคียงกับการพ่นยา ในครั้งถัดไป ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดการพ่นยาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิภาพของการรักษาควรพ่นยาไอปราโทรเปียมให้ตรงเวลา

ไอปราโทรเปียมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาไอปราโทรเปียมสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายได้ดังนี้เช่น

ก. ผลต่อตา: การมองเห็นเหมือนมีแสงจ้า รูม่านตาขยาย ความดันในลูกตาสูงขึ้น ตาพร่า ปวดตาอย่างเฉียบพลัน หากใช้กับผู้ป่วยโรคต้อหินจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น

ข. ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: อาจเกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะหรือมีอาการปัสสาวะขัด

ค. ผลต่อระบบการหายใจ: ก่อให้เกิดภาวะหลอดลมอักเสบ หลอดลมหดเกร็ง ไซนัสอักเสบ มีอาการไอ เกิดการติดเชื้อของระบบหายใจส่วนบน

ง. ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ

จ. ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เบื่ออาหาร ปากแห้ง คลื่นไส้ รู้สึกขมในปาก อาเจียน ท้องเสีย

มีข้อควรระวังการใช้ไอปราโทรเปียมอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาไอปราโทรเปียมเช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยากับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
  • ห้ามปรับขนาดการใช้ยาด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
  • ห้ามให้ยานี้เข้าตา ควรหลับตาทุกครั้งที่ต้องพ่นยา กรณีที่ตัวยาสัมผัสตาให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
  • ฝึกหัดวิธีใช้ยานี้อย่างถูกต้องจากแพทย์พยาบาลหรือเภสัชกรก่อนนำยากลับมาใช้ที่บ้าน
  • กรณีที่ไม่ได้ใช้ยาพ่นนานเกิน 3 วันก่อนการใช้ทุกครั้งให้ทดสอบพ่นยาทิ้งประมาณ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการตรวจสอบว่ายังใช้ได้เป็นปกติหรือไม่
  • เพื่อประสิทธิผลของการใช้ยาหากต้องพ่นยาเกิน 1 ครั้งให้รอเวลาประมาณ 15 วินาทีแล้วค่อยพ่นยาครั้งถัดไป
  • กรณีที่มีอาการวิงเวียนหลังการใช้ยาให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะใดๆรวมถึงการทำ งานที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักร
  • กรณีที่ใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือการใช้ยาขณะที่มีอาการหอบแบบเฉียบพลันแล้วไม่ได้ผล ให้รีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาไอปราโทรเปียมด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ไอปราโทรเปียมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาไอปราโทรเปียมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นเช่น หลีกเลี่ยงการใช้ยาไอปราโทรเปียมร่วมกับยาบางตัวด้วยอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆได้อย่างมากมายเช่น ง่วงนอน ตาพร่า ปากแห้ง เหงื่อออกน้อยลง ทนอากาศร้อนได้ไม่ดีเหมือนเดิม หน้าแดง ปัสสาวะลำบาก/ปัสสาวะขัด เป็นตะคริวที่ท้อง ท้องผูก หัวใจเต้นเร็ว รู้สึกสับสน เกิดภาวะของต้อหิน ทั้งนี้อาการข้างเคียงเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกับผู้สูงอายุ ยาอื่นๆเหล่านั้นเช่น Brompheniramine, Carbinoxamine, Chlorpheniramine, Doxylamine, Diphenhydramine, Hyoscyamine, Meclizine, Promethazine, Pyrilamine, Triprolidine เป็นต้น

ควรเก็บรักษาไอปราโทรเปียมอย่างไร?

ควรเก็บยาไอปราโทรเปียมภายใต้อุณหภูมิระหว่าง 25 องศาเซลเซียส (Celsius) เก็บยาให้ พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น และไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์

ไอปราโทรเปียมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาไอปราโทรเปียมที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิตเช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Aerobidol (เอโรบิดอล)Aerocare
Berodual (เบโรดูออล)Boehringer Ingelheim
Berodual Forte (เบโรดูออล ฟอร์ด)Boehringer Ingelheim
Combivent UDV (คอมบิเวนท์ ยูดีวี)Boehringer Ingelheim
Inhalex Forte (อินแฮเล็กซ์ ฟอร์ท)Silom Medical
Iperol (ไอเพอรอล) L. B. S.
Iperol Forte (ไอเพอรอล ฟอร์ท)L. B. S.
Iprateral (อิพราเทอรอล)Pharma Innova
Punol (พูนอล)Biolab

อนึ่งยาชื่อการค้าอื่นของยาไอปราโทรเปียมในต่างประเทศเช่น Atrovent

บรรณานุกรม

  1. http://en.wikipedia.org/wiki/Muscarinic_antagonist [2016,Feb6]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Ipratropium_bromide [2016,Feb6]
  3. http://drug.fda.moph.go.th:81/nlem.in.th/medicine/essential/list/51#item-8448 [2016,Feb6]
  4. http://www.drugs.com/sfx/ipratropium-side-effects.html [2016,Feb6]
  5. http://www.mims.com/Thailand/drug/search?q=ipratropium [2016,Feb6]
  6. http://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=Ipratropium+bromide [2016,Feb6]
  7. http://www.mims.com/Thailand/drug/info/berodual-berodual%20forte/?type=full#Indications [2016,Feb6]
  8. http://www.mims.com/Malaysia/drug/info/Combivent/?type=full#Dosage [2016,Feb6]
  9. http://www.drugs.com/drug-interactions/ipratropium-index.html?filter=2&generic_only= [2016,Feb6]