โรคหลอดเลือดสมองตอน ความแตกต่างระหว่าง อัมพาตปากเบี้ยว กับ เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 19 พฤษภาคม 2560
- Tweet
ความจริงของอาการปากเบี้ยวที่ต้องรู้
- อาการผิดปกติทางระบบประสาทที่พบบ่อย รองจากอาการปวดศีรษะ แขน ขาอ่อนแรง ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการได้หลายแบบ ได้แก่ อาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท น้ำลายไหล อมน้ำบ้วนปากไม่ได้ ผิวปากไม่ได้
- สาเหตุเกิดจากรอยโรคในสมอง หรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งมีลักษณะความผิดปกติที่แตกต่างกัน
สาเหตุจากโรคในสมอง
- อยโรคในสมองที่ก่อให้เกิดอาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิทนั้น เกิดจากโรคอัมพาตสมองขาดเลือด หรือเลือดออกในสมอง เนื้องอกในสมอง การอักเสบหรือติดเชื้อในเนื้อสมอง หรือสาเหตุอื่นๆ ที่พบได้ไม่บ่อย เช่น โรคเอ็มเอส (multiple sclerosis) เป็นต้น
- ผู้ป่วยอาจมีอาการปากเบี้ยวมาก ยิ้มหรือยิงฟันไม่ได้ หลับตาไม่ค่อยสนิท แต่ยังยักคิ้วได้ เป็นลักษณะที่แตกต่างจากรอยโรคที่เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่มักจะมีอาการผิดปกติทั้งปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ยักคิ้วไม่ได้ร่วมด้วย
- นอกจากอาการปากเบี้ยวแล้ว มักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น แขน ขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด ปวดศีรษะ ซึม ไข้สูง
- ควรรีบพบแพทย์ทันทีที่มีอาการ เพื่อให้แพทย์รีบตรวจรักษาว่ามีสาเหตุจากอะไร จะได้รีบให้การรักษาได้ถูกต้อง
- จำเป็นต้องตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง หรือเอ็มอาร์ไอสมอง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอาการปากเบี้ยว เพื่อให้การรักษาที่ถูกต้อง
สาเหตุจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7
- เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 เบลส์พาวซี้ (Bell’s palsy) โรคนี้พบได้บ่อยมากๆ ไม่มีอันตราย แต่ก่อให้เกิดความวิตกกังวล
- มีอาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ยักคิ้วไม่ได้ (มีอาการผิดปกติทั้งซีกของใบหน้า) โดยมักมีอาการปวดบริเวณหน้าหูหรือหลังหูนำมาก่อนหลายวัน หรือบางรายเป็นไข้หวัดนำมาก่อน พบบ่อยขึ้นในหญิงตั้งครรภ์
- ตื่นเช้าขึ้นมาจะอมน้ำบ้วนปาก เพื่อแปรงฟันแล้วอมน้ำไม่ได้ น้ำไหลออกจากมุมปาก อาจมีอาการรับรสผิดปกติด้วย
- แต่จะไม่มีอาการแขน ขาอ่อนแรง ซึม ไข้สูง เหมือนกับรอยโรคในสมอง
- การรักษาด้วยยาเพ็ดนิโซโลนขนาดสูงประมาณ 10 วัน
- ไม่ต้องตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือเอ็มอาร์ไอสมอง
- อาการส่วนใหญ่หายดีเป็นปกติ ไม่มีอันตราย แต่ในผู้ป่วยที่ไม่หายอาจเกิดภาวะปากกระตุกเวลาหลับตา หรือ ตากระตุกเวลาพูด น้ำตาไหลเวลาเคี้ยวอาหาร
ดังนั้นถ้าเกิดอาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ให้รีบพบแพทย์เร็วที่สุด ไม่แนะนำให้สังเกตอาการหรือพิจารณาเองว่ามีปัญหาผิดปกติส่วนไหนของระบบประสาท ให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยโรคและรักษาดีกว่า