โปรกัวนิล (Proguanil)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ:คือยาอะไร?

โปรกัวนิล (Proguanil)  คือ ยาใช้ป้องกันการติดเชื้อมาลาเรีย/ไข้จับสั่น ชื่อการค้าที่รู้จักกันคือ “Paludrine” และวางจำหน่ายโดยบริษัทยา Astra Zeneca 

ในอดีตโปรกัวนิลถูกนำไปใช้กับเด็กที่ป่วยเป็นโรคเลือดชนิดเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle cell disease)ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีไข้มาลาเรียชุกชุมเป็นเวลาหลายปี ปัจจุบันมักมีการใช้ยาโปรกัวนิลก่อนการเดินป่าเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อมาลาเรีย 

ทางคลินิก อาจใช้โปรกัวนิลร่วมกับยาอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาการติดเชื้อมาลาเรีย โดยปกติการใช้ยานี้เพื่อป้องกันจะต้องรับประทานยาเป็นเวลา 1 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ปริมาณยาในร่างกายมีความเข้มข้นมากพอที่จะป้องกันเชื้อไข้มาลาเรีย บางกรณีที่ไม่สามารถรับประทานยาได้ครบ 1 สัปดาห์ แนะนำให้รับประทานยาอย่างน้อย 1 - 2 วันก่อนเดินทาง เข้าพื้นที่ที่มีมาลาเรียและต้องรับประทานยาต่อเนื่องในขณะที่อยู่ในป่า เมื่อกลับออกมาจากพื้นที่มาลาเรียแล้วให้รับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลาอีก 4 - 6 สัปดาห์ ทั้งนี้การใช้ยานี้ต้องอยู่ในคำแนะนำของแพทย์ 

นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเรื่องการกระจายตัวของยาโปรกัวนิลในร่างกายพบว่า ยานี้สามารถถูกดูดซึมได้ดีจากระบบทางเดินอาหารและสามารถซึมผ่านเข้าน้ำนมของมารดาได้ ตัวยาในกระแสเลือดส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีที่ตับ และได้สารที่มีชื่อว่า Cycloguanil ซึ่งไม่มีฤทธิ์ในการต้านทานมาลาเรีย ร่างกายจะกำจัดยาโปรกัวนิลปริมาณ 40 - 60% ออกมากับน้ำปัสสาวะ 

องค์การอนามัยโลกได้ระบุให้ยาโปรกัวนิลเป็นยาจำเป็นขั้นพื้นฐานของชุมชน สำหรับประเทศไทยได้ระบุสูตรตำรับที่มียาโปรกัวนิลเป็นส่วนประกอบให้เป็นยาควบคุมพิเศษโดยต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ก่อนจะนำยาไปใช้

โปรกัวนิลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

โปรกัวนิล

ยาโปรกัวนิลมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • ป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย/ไข้จับสั่นที่เกิดจากเชื้อ Falciparum malaria

โปรกัวนิลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาโปรกัวนิล คือ ตัวยาจะเข้าไปจับกับเอนไซม์ของเชื้อมาลาเรียหรือที่เรียกว่า DHFR enzyme (Dihydrofolate reductase enzyme) อีกทั้งยังยับยั้งกระบวนการเผาผลาญกรดโฟลิก (Folic acid) ในตัวเชื้อมาลาเรีย ส่งผลให้เสียสมดุลทางชีวภาพในการดำรงชีวิต และทำให้เชื้อมาลาเรียหยุดการเจริญเติบโตและตายลงในที่สุด

โปรกัวนิลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาโปรกัวนิลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 100 มิลลิกรัม/เม็ด
  • ยาเม็ดที่ผสมร่วมกับยาอื่น เช่น Atovaquone 250 มิลลิกรัม + Proguanil HCl 100 มิลลิ กรัม

โปรกัวนิลมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาโปรกัวนิลมีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็กที่อายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป: รับประทาน 100 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง
  • เด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 1 ปี : รับประทาน 25 มิลลิกรัม/วัน
  • เด็กที่มีอายุระหว่าง 1 - 4 ปี: รับประทาน 50 มิลลิกรัม/วัน
  • เด็กที่มีอายุระหว่าง 5 - 8 ปี: รับประทาน 75 มิลลิกรัม/วัน
  • เด็กที่มีอายุระหว่าง 9 - 12 ปี: รับประทานได้ถึง 100 มิลลิกรัม/วัน

 

*อนึ่ง:

  • ควรรับประทานยานี้พร้อมมื้ออาหาร
  • สำหรับการใช้ยานี้กับเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)สามารถใช้วิธีบดยาให้เป็นผงแล้วผสมนม น้ำผึ้งหรือแยม เพื่อกลบรสของยาและทำให้รับประทานได้ง่ายยิ่งขึ้น

 *****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาโปรกัวนิล ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และ                       เภสัชกร  เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาโปรกัวนิลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนเกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

 หากลืมรับประทานยาโปรกัวนิล สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

โปรกัวนิลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาโปรกัวนิลสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น

  • รู้สึกระคายเคืองในกระเพาะอาหาร-ลำไส้
  • ปวดหัว
  • วิงเวียน
  • ผื่นคัน

*อนึ่ง: หากได้รับยานี้เกินขนาดอาจพบอาการ ปวดท้อง, ปัสสาวะมีสีเลือดปน/ปัสสาวะเป็นเลือด, ปัสสาวะแล้วแสบร้อน, ปวดหลัง, อาเจียน,  หากพบอาการดังกล่าวควรต้องรีบกลับไปปรึกษาแพทย์ /ไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ปรับแนวทางการใช้ยาที่เหมาะสม

มีข้อควรระวังการใช้โปรกัวนิลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาโปรกัวนิล เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคไตขั้นรุนแรง
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่เชื้อมาลาเรีย/ไข้จับสั่นเป็นชนิดดื้อต่อยานี้ เช่น ชนิด Plasmodium
  • ห้ามรับประทานยานี้พร้อมกับดื่มสุรา
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้สูงอายุ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  • การใช้ยานี้กับสตรีที่ตั้งครรภ์ควรต้องเป็นไปตามความเห็นหรือมีคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
  • หากพบอาการข้างเคียงที่รบกวนต่อการดำรงชีวิตประจำวันควรกลับไปพบแพทย์/ไปโรง พยาบาลเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการใช้ยา
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาโปรกัวนิลด้วย) ยาแผนโบราณ   อาหารเสริม   ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  ทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน 

โปรกัวนิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาโปรกัวนิลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น  เช่น  

  • การใช้ยาโปรกัวนิล ร่วมกับ ยาลดกรดที่มีส่วนประกอบของ Aluminium hydroxide และ Magnesium hydroxide จะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของโปรกัวนิลด้อยลงไป หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกันควรปรับการรับประทานยาให้มีระยะเวลาห่างกัน 2 - 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
  • การใช้ยาโปรกัวนิล ร่วมกับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่ยา Warfarin จะก่อให้เกิดภาวะเลือดออกง่ายและอาจพบอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาเจียน มีเลือดปนมากับปัสสาวะ/ปัสสาวะเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือด ปวดหัว วิงเวียน อ่อนเพลีย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • ห้ามใช้ยาโปรกัวนิลขณะฉีดวัคซีนป้องกันไทฟอยด์ ด้วยจะทำให้การกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของวัคซีนด้อยประสิทธิภาพลงไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้บริโภคต้องเว้นระยะเวลาหลังฉีดวัคซีนป้องกันไทฟอยด์เข็มสุดท้ายเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วันเป็นอย่างต่ำ จึงสามารถรับประทานโปรกัวนิลได้
  • การใช้ยาโปรกัวนิล ร่วมกับยา Quinaril (ยาลดความดันยาลดความดันเลือดสูง)จะเกิดการรวมตัวกันในกระเพาะอาหารทำให้ประสิทธิภาพการรักษาและการดูดซึมของยาโปรกัวนิลด้อยลงไป หากจำ เป็นต้องใช้ยาร่วมกันควรเว้นระยะเวลาของการใช้ยาให้ห่างกัน 2 - 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

ควรเก็บรักษาโปรกัวนิลอย่างไร?

ควรเก็บยาโปรกัวนิล: เช่น

  • เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อน และความชื้น  

เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

โปรกัวนิลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาโปรกัวนิลที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิตเช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Malanil (มาลานิล) GlaxoSmithKline
Malaron (มาลารอน) GlaxoSmithKline
Progunal (โปรกูนอล) Lexica
Paludrine (ปาลูดรีน) Alliance Pharmaceuticals

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Proguanil   [2021,Nov6]
  2. https://patient.info/medicine/proguanil-for-malaria-prevention  [2021,Nov6]
  3. https://www.drugs.com/cons/proguanil.html   [2021,Nov6]
  4. https://www.mims.com/thailand/drug/info/proguanil?mtype=generic  [2021,Nov6]
  5. https://www.mims.com/Hongkong/drug/info/Malarone/?type=brief   [2021,Nov6]
  6. http://www.antimicrobe.org/drugpopup/Proguanil.pdf   [2021,Nov6]
  7. https://www.drugs.com/drug-interactions/proguanil-index.html?filter=2   [2021,Nov6]
  8. https://www.medicines.org.uk/emc/medicine/10663/XPIL/Paludrine+Tablets/   [2021,Nov6]