โคลอสตรัม ซุปเปอร์ฟู้ด (ตอนที่ 4 และตอนจบ)

มาร์แฟน-ซินโดรม

ยังมีหลักฐานงานวิจัยไม่เพียงพอ (ต่อ)

  • โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis = MS) – งานวิจัยเบื้องต้นบางฉบับระบุว่า การกิน Hyperimmune bovine colostrum เป็นเวลา 4 สัปดาห์ไม่ได้ช่วยเรื่องอาการของโรคเอ็มเอส อย่างไรก็ดีมีงานวิจัยเบื้องต้นฉบับอื่นที่ระบุว่า การกิน Anti-measles bovine colostrum เป็นเวลา 30 วัน อาจช่วยรักษาอาการของโรคเอ็มเอส
  • การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น เป็นหวัด – งานวิจัยเบื้องต้นระบุว่า การกินโคลอสตรัมของวัวเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในคนที่มีอายุน้อย โดยเฉพาะชายหนุ่มที่แอคทีฟ
  • ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
  • รักษาอาการบาดเจ็บ
  • ซ่อมแซมระบบประสาทที่ถูกทำลาย
  • เผาผลาญไขมัน
  • สร้างกล้ามเนื้อ (Lean muscle)
  • เพิ่มความแข็งแกร่งและพละกำลัง
  • ปรับอารมณ์ความรู้สึกให้ดี
  • ชะลอความแก่
  • ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

นอกจากนี้ โคลอสตรัมของวัวดูเหมือนจะปลอดภัย (Likely safe) สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ใช้กิน แต่หากใช้ในการสวนทวารแล้ว จะอยู่ในระดับน่าจะปลอดภัย (Possibly safe) มากกว่า

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่มีการรายงานผลข้างเคียงจากการใช้โคลอสตรัมของวัว แต่ก็มีบางรายงานที่ระบุว่า คนที่ติดเชื้อเฮชไอวีมีปัญหาจากผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาจเจียน ตับทำงานผิดปกติ และระดับเซลล์เม็ดเลือดแดงตก

อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลในเรื่องของโรควัวบ้า (Mad cow disease หรือ Bovine spongiform encephalitis = BSE) หรือโรคอื่นๆ ที่เกิดจากสัตว์อยู่ แม้ว่าโรควัวบ้าจะไม่ติดต่อทางน้ำนม แต่ก็เป็นการปลอดภัยกว่าที่จะหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ของประเทศที่มีโรคนี้

สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรนั้น ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้โคลอสตรัมของวัวระหว่างที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ดังนั้นจึงควรปลอดภัยไว้ก่อนด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้

ดังนั้น จึงสามารถกล่าวได้ว่า วิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ก็คือ การได้รับอาหารที่มีโภชนาการถูกต้อง มีการออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และมีสุขภาพจิตที่ดี

แหล่งข้อมูล

1. BOVINE COLOSTRUM. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-785-bovine%20colostrum.aspx?activeingredientid=785 [2017, April 26].