แอสไพรินกินทุกวัน ลดอุดตันหลอดเลือดดำ (ตอนที่ 2)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 28 พฤษภาคม 2555
- Tweet
เมื่อเกิดการอุดตันหลอดเลือด (Blood clot or Thrombus) ขึ้นครั้งแรก แพทย์มักจ่ายยาต้านการจับเป็นลิ่ม (Anticoagulant) อาทิ Warfarin (ซึ่งมีชื่อการค้าว่า Coumadin และ Jantoven) เป็นเวลาหลายเดือน และต้องมีการตรวจเลือดเพื่อทดสอบความผิดปรกติ แต่ถ้าผู้ป่วยยังคงกินยานี้ต่อไปอีก เพื่อป้องกันการอุดตันซ้ำ (Repeat) อาจเพิ่มความเสี่ยงของเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding)
แต่ทีมนักวิจัยพบว่า ขั้นตอนต่อไปที่เหมาะสม หลังการรักษาในเบื้องต้นด้วยยาต้านการจับเป็นลิ่ม อาจเป็นการกินยาแอสไพรินทุกวัน เพื่อป้องกันหลอดเลือดอุดตันซ้ำ โดยที่ผู้ป่วยที่กินยาแอสไพริน จะมีความเสี่ยงลดลง 40% เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่กินยาหลอก (Placebo) แต่ทีมนักวิจัยก็เรียกร้องให้มีการศึกษาเพิ่มเติม ก่อนสรุปผลดังกล่าว
แอสไพริน (Aspirin) นิยมใช้เป็นยาบรรเทาปวด (Analgesic) ยาลดไข้ (Antipyretic) และ ลดการอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (Anti-inflammation) มีผลต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet) แอสไพรินเป็นชื่อทางการค้า ซึ่งค้นพบโดย Felix Hoffmann นักเคมีชาวเยอรมันที่ทำงานอยู่กับบริษัทไบเออร์ (Bayer)
แอสไพริน เป็นสารเคมีที่สังเคราะห์ขึ้นโดยไม่เลียนแบบธรรมชาติเป็นตัวแรกของโลก และที่สำคัญสารเคมีตัวใหม่มีผลข้างเคียงน้อยกว่าเดิมมาก Felix Hoffmann ได้ทดลองยาตัวนี้กับพ่อของเอง ซึ่งเป็นป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ ปรากฏว่าได้ผลดี โดยไม่มีอาการข้างเคียงด้วย เขาจึงเสนอบริษัทไบเออร์ให้จดสิทธิบัตรและทำตลาดยาตัวนี้
แอสไพรินใช้ในการรักษาอาการต่างๆ อาทิ ไข้หวัด การเจ็บปวด (Pain) และโรคอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อนานาชนิด อาทิ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) และ โรคคาวาซากิ (Kawasaki disease) นอกจากนี้ยังในกรณีอื่นๆ เช่น ใช้ป้องกันภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient ischemic attacks)
ปัจจุบัน แอสไพรินได้กลายเป็นหนึ่งในยาที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก ประมาณว่า ในแต่ละปีมีการบริโภคยาตัวนี้ประมาณ 40,000 ตัน การวิจัยพบว่า แอสไพรินมีผลยับยั้งการอุดตันจากเกล็ดเลือด (Platelet) ทำให้เกิดการยับยั้งการรวมกันของเกล็ดเลือด (Platelet aggregation) ซึ่งเป็นผลให้เลือดไม่แข็งตัว [เป็นลิ่ม]
การใช้ในปริมาณการต่ำๆ เป็นเวลายาวนาน สามารถป้องกันอาการหัวใจล้ม (Heart attack) โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และหลอดเลือดอุดตัน ปริมาณการใช้แอสไพรินที่ให้ผลนี้คือขนาด 75 ถึง 81 มิลลกรัม ในรูปยาเม็ด แต่ในโรคหัวใจเฉียบพลัน (Acute) สามารถใช้แอสไพรินในปริมาณการสูงได้ด้วย
มีการวิจัยที่ค้นพบว่า การให้ผู้ป่วยกินยาแอสไพรินในขนาดที่ต่ำ ทันทีหลังหัวใจล้ม สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำของหัวใจล้ม หรือการตายของเนื้อเยื่อหัวใจ (Cardiac tissue) ดังนั้น จึงมีผู้คนไม่น้อยที่กินยาแอสไพรินทุกวันเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว หลักฐานใหม่จากการวิจัยพบว่า แอสไพรินอาจเป็นเครื่องมือทรงพลังในการป้องกันโรคมะเร็ง (Cancer) อีกด้วย
แหล่งข้อมูล:
- Aspirin May Reduce Risk of Repeat Blood Clots. http://www.webmd.com/news/20120523/aspirin-may-reduce-risk-of-repeat-blood-clots [2012, May 27].
- Aspirin. http://en.wikipedia.org/wiki/Aspirin [2012, May 27].