แลโลกแบบแห้งแล้ง (ตอนที่ 4)

แลโลกแบบแห้งแล้ง

โดยคำแนะนำในการเลือกใช้ยามีดังนี้

  • ยาที่มีสารกันเสียและไม่มีสารกันเสีย – ท่านสามารถใช้ยาที่มีสารกันเสียได้ไม่เกินวันละ 4 ครั้ง เพราะการใช้ยาชนิดนี้มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการเคืองตา ดังนั้นหากมีการใช้ยาเกินวันละ 4 ครั้ง ควรเลือกชนิดที่ไม่มีสารกันเสีย
  • น้ำตาเทียมมีหลายรูปแบบ เช่น ยาหยอด (Drops) เจล Gel) หรือ ยาขี้ผึ้ง (Ointments) – ยาขี้ผึ้งจะเหนอะหนะแต่อยู่ได้นานกว่ายาหยอด ดังนั้นยาขี้ผึ้งจึงเหมาะที่จะใช้ก่อนเวลานอน

ส่วนการรักษาอย่างอื่นอาจทำได้ด้วยการ

  • อุดท่อน้ำตา (Tear ducts) เพื่อลดการสูญเสียน้ำตา อาจเป็นการอุดแบบชั่วคราวที่ใช้ซิลิโคน (Punctal plugs) หรือแบบถาวรที่ใช้ความร้อน (Thermal cautery)
  • ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษที่ช่วยคนตาแห้ง (Scleral lenses / bandage lenses)
  • รักษาด้วยแสง (Light therapy) และการนวดปลือกตา (Eyelid massage)

สำหรับการป้องกันอาการตาแห้งนั้น ควรหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิด เช่น

  • หลีกเลี่ยงลมเข้าตา เช่น การใช้ที่เป่าผม แอร์ปรับอากาศ พัดลม ที่ทำให้ลมเข้าตา
  • สวมแว่นกันแดด แว่นกันลม
  • พักสายตาเป็นระยะเมื่อต้องใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน เช่น ปิดตานาน 2-3 นาที หรือกระพริบตา 2-3 วินาที เพื่อให้น้ำตาหล่อเลี้ยงได้ทั่วตา
  • ระวังสภาพแวดล้อมที่ทำให้ตาแห้ง เช่น ที่สูง ทะเลทราย บนเครื่องบิน ซึ่งช่วยได้ด้วยการหลับตาบ่อยๆ เพื่อลดการระเหยของน้ำตา
  • ตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสายตา เพราะหากเครื่องตั้งในระดับที่สูงกว่า เราจะต้องเปิดตาที่กว้างขึ้นเพื่อดูหน้าจอซึ่งทำให้น้ำตาระเหยมากกว่า
  • หยุดสูบบุหรี่หรืออยู่ห่างจากควันบุหรี่
  • หยอดน้ำตาเทียม

เมื่อใช้น้ำตาเทียมไม่ว่าจะเป็นชนิดหยอด เจล หรือ ขี้ผึ้ง น้ำตาเทียมจะทำหน้าที่เคลือบอยู่บนผิวกระจกตา และต้องใช้เวลาในการกระจายตัวไปทั่วผิวตา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการตามัวได้ชั่วคราว การที่น้ำตาเทียมทำหน้าที่เคลือบผิวกระจกตาไว้นั้น ก็เพื่อทำให้เกิดการเก็บรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ซึ่งจะทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น

แหล่งข้อมูล

1. Dry eyes. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dry-eyes/basics/definition/con-20024129 [2016, June 13].

2. Dry eyes. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dry-eyes/expert-answers/artificial-tears/faq-20058422 [2016, June 13].