แลโลกอย่างไร้สี (ตอนที่ 3 และตอนจบ)

  • โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
  • 10 มิถุนายน 2559
  • Tweet
แลโลกอย่างไร้สี

การวิเคราะห์อาการตาบอดสีค่อนข้างทำได้ยาก โดยเฉพาะในเด็กที่เป็นมาแต่กำเนิด ทั้งนี้เพราะเด็กจะไม่รู้ถึงความผิดปกติของการเห็นสีเหล่านี้

วิธีทดสอบอาการตาบอดสีเบื้องต้นที่ใช้กันมากที่สุด คือ Ishihara Plate test ซึ่งใช้ทดสอบกับผู้ที่ตาบอดสีแดงเขียว (ไม่สามารถใช้ทดสอบกับผู้ที่ตาบอดสีน้ำเงินได้) ประกอบด้วยรูปวงกลมเป็นจุดสี 38 แผ่น เพื่อให้ผู้ทดสอบอ่านตัวเลข นอกจากนี้ยังมีวิธีการทดสอบอื่นๆ อีก เช่น

  • The newer Cambridge Color Test
  • The anomaloscope
  • The HRR Pseudoisochromatic Color Test
  • The Farnsworth-Munsell 100 Hue Test

สำหรับการรักษา หากมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมยังไม่สามารถทำการรักษาได้ (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองรักษาในลิง) อย่างไรก็ดี คอนแทคเลนซ์ชนิดพิเศษอาจช่วยให้ผู้ที่มีตาบอดสีสามารถบอกความแตกต่างระหว่างสีที่คล้ายกันได้บ้าง นอกจากนี้ ยังมีแอ็พบางอย่าง เช่น iPhone และ iPad apps ที่ถ่ายภาพแล้วสามารถนำมาขยายเพื่อดูความแตกต่างของสีได้

ส่วนกรณีอื่นที่มาจากสาเหตุ เช่น มีสาเหตุมาจากต้อกระจก ก็อาจะสามารถช่วยได้ด้วยการผ่าตัดต้อ

ผู้ที่ตาบอดสีจะพบความลำบากหลายอย่างในชีวิตที่คนธรรมดาๆ อย่างเราอาจคิดไม่ถึง แม้แต่เรื่องง่ายๆ ที่เราพบเห็นอยู่ทุกวัน เช่น การทำอาหาร การเล่นกีฬา การขับรถ การเลือกเสื้อผ้า เป็นต้น

นอกจากนี้ผู้ที่ตาบอดสีจะไม่สามารถดูอารมณ์ของคู่สนทนาที่เปลี่ยนไปได้จากสีหน้า หรือสามารถสังเกตุได้ถึงอาการไหม้แดด (Sunburnt) ของเด็ก

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ตาบอดสี

  • ผู้ที่ตาบอดสีเขียว-แดง จะไม่สามารถเห็นได้ถึงความสุกของอาหาร อย่างอาหารประเภทเนื้อแบบสุกน้อย (Rare) หรือ แบบสุกสนิททั่วทั้งชิ้น (Well done) หรือไม่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างมะเขือเทศที่ยังดิบเขียวหรือมะเขือเทศที่สุกแดงแล้ว หรือหรือไม่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างซอสมะเขือเทศและซอสช็อคโกแลต
  • ผู้ที่ตาบอดสีจะไม่สามารถเห็นถึงความแตกต่างระหว่างกล้วยดิบหรือกล้วยสุก เพราะจะเห็นเป็นสีเฉดเดียวกัน
  • ผู้ที่ตาบอดสีจะพบปัญหาในการขับรถที่ต้องดูไฟจราจร
  • เด็กที่ตาบอดสีจะมีปัญหาในการเรียนหนังสือ เพราะอุปกรณ์การเรียนหลายชนิดใช้สีเป็นสื่อในการสอน เช่น ดินน้ำมัน รูปภาพ ฯลฯ

แหล่งข้อมูล

1. What is color blindness? http://www.webmd.com/eye-health/tc/color-blindness-topic-overview [2016, June 9].

2. Color Blindness. http://www.aao.org/eye-health/diseases/what-is-color-blindness [2016, June 9].

3. Facts About Color Blindness. https://nei.nih.gov/health/color_blindness/facts_about [2016, June 9].

4. Color Blindness. http://www.colourblindawareness.org/colour-blindness/causes-of-colour-blindness [2016, June 9].