แปรงสีฟันนั้นสำคัญไฉน ? (ตอนที่ 2)

การรักษาสุขภาพของช่องปากเป็นสิ่งสำคัญต่อฟันและเหงือก สุขภาพฟันที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้รู้สึกดี แต่ยังทำให้สามารถกินและพูดได้ดีด้วย การป้องกันเป็นประจำทุกวันทั้งด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันจะช่วยไม่ให้ปัญหาลุกลามไปมาก เจ็บน้อยกว่า จ่ายน้อยกว่า และกังวลน้อยกว่าการรักษาเมื่อเกิดปัญหา

ลักษณะของช่องปากที่มีสุขอนามัยที่ดี หมายถึง

  • ฟันสะอาดและไม่มีเศษอาหารติด
  • เหงือกเป็นสีชมพูและไม่เจ็บหรือมีเลือดออกขณะที่แปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน (Floss)
  • ปัญหากลิ่นปากไม่ใช่ปัญหาถาวร

แปรงสีฟันเป็นสิ่งที่ใช้ทุกวันเพื่อทำความสะอาดฟัน ลดคราบแบคทีเรียและรักษาสุขภาพของเหงือกให้ดี แปรงสีฟันมีขนทั้งชนิดอ่อน ปานกลาง และแข็ง ซึ่งทำจากวัสดุหลายประเภท มีทั้งแปรงสีฟันที่ใช้แล้วทิ้งและแปรงสีฟันที่เป็นไฟฟ้า ซึ่งได้แก่

  1. แบบใช้มือ (Manual) เป็นแปรงที่ใช้กันมานานโดยมีด้ามถือและมีขนแปรงอยู่ที่ปลายด้านหนึ่ง บางอันอาจมีที่ขูดลิ้นอยู่ที่ปลายอีกด้านหนึ่งด้วย เป็นแปรงที่มีหลายรูปแบบและหลากสีสัน สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องข้ออักเสบ (Arthritis) อาจมีปัญหากับการใช้แปรงชนิดนี้
  2. แปรงสีฟันที่ใช้แบตเตอรี่ (Battery-Powered) จะมีด้ามขนาดใหญ่ที่บรรจุแบตเตอรี่ AA ได้ 2 ก้อน ขนแปรงจะแตกต่างกันไปและหมุนในทิศทางที่ต่างกัน
  3. แปรงสีฟันที่ใช้คลื่นเสียง (Sonic Power) โดยขนแปรงจะสั่นสะเทือนเพื่อทำให้คราบแบคทีเรียและเศษอาหารหลุดออกจากซอกฟัน
  4. แปรงสีฟันที่เคี้ยวได้ (Chewable) แปรงสีฟันชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นพลาสติกเล็กๆ ที่มีขนแปรงอยู่ด้านหนึ่ง ใช้เคี้ยวสัก 2-3 นาที แล้วคายออก ก็จะทำให้ฟันสะอาดและลมหายใจหอมสดชื่น เป็นการใช้เฉพาะครั้งไม่ได้ใช้แทนแปรงสีฟันแบบปกติหรือการใช้ไหมขัดฟัน
  5. แปรงสีฟันเด็ก อาจเป็นแบบใช้แบตเตอรี่ ไฟฟ้า หรือแบบธรรมดา รูปร่างและแบบเป็นการ์ตูนมีสีสันสดใส หรืออาจมีเสียงเพลงในขณะที่เด็กกำลังแปรงฟันด้วย

นอกจากแปรงสีฟันปกติแล้ว ยังมีการใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด คือ

  1. แบบไนลอน (Nylon / multifilament floss)
  2. แบบ PTFE (Monofilament floss)

ไหมขัดฟันชนิดไนลอนมีทั้งที่เป็นแบบเคลือบและไม่เคลือบ และมีหลายรสชาติ เนื่องจากไหมชนิดนี้จะประกอบด้วยเส้นใยไนลอนบาง ๆ หลายเส้น จึงอาจเกิดการฉีกขาด โดยเฉพาะบริเวณที่ค่อนข้างแน่น ในขณะที่ไหมขัดฟันชนิด PTFE ที่มีราคาแพงกว่า จะสามารถเลื่อนเข้าสู่ซอกฟันได้ง่ายกว่า รวมทั้งมีความเหนียวกว่า ถ้าใช้อย่างเหมาะสม ทั้งสองชนิดจะช่วยกำจัดคราบแบคทีเรียและเศษอาหารได้อย่างดี

แหล่งข้อมูล

1. Choosing the Right Toothbrush. http://www.colgate.com/app/CP/US/EN/OC/Information/Articles/Oral-and-Dental-Health-Basics/Oral-Hygiene/Oral-Hygiene-Basics/article/Choosing-the-Right-Toothbrush.cvsp [2014, July 12].
2. How to Choose the Right Toothbrush. http://www.ehow.com/how_4549396_choose-right-toothbrush.html [2014, July 12].