แก๊สน้ำตา (ตอนที่ 1)

พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 พร้อมนักวิทยาศาสตร์ กองพิสูจน์หลักฐาน นำผลตรวจสารเคมีสีม่วงและสีเหลือง ที่ผสมแก๊สน้ำตา ใช้ในการควบคุมผู้ชุมนุมบริเวณแยกพล 1 มาตรวจ พบว่าสารเคมีทั้งสองชนิดมีค่า ph อยู่ที่ระดับ 7 ไม่เป็นกรด

โดยทำให้ระคายเคืองผิวหนังนาน 30 นาที ซึ่งหากมีการสูดดมเข้าไปจะกระทบระบบทางเดินหายใจ ทำให้อาเจียนได้ และหากถูกเสื้อผ้าจะซักไม่ออก ควรถอดทิ้งทันที ไม่เช่นนั้นจะระคายเคืองผิวหนัง และแนะว่าวิธีที่ดีที่สุดหากโดนสารเคมีชนิดนี้ ให้รีบล้างด้วยน้ำเปล่า และหากคลื่นไส้ ควรอาเจียนออกให้หมด

พล.ต.อ.จรัมพร ย้ำว่า แม้จะมีผลกระทบต่อร่างกาย แต่สารเคมีทั้งสองชนิดก็เป็นไปตามหลักสากลที่ทั่วโลกใช้ในการควบคุมฝูงชน ทั้งอินเดีย อิสราเอล และเกาหลีใต้ และเป็นครั้งแรกที่ไทยนำมาใช้ โดยจะไม่เสนอให้ยกเลิกการใช้เคมีตัวนี้ เนื่องจากก่อนการใช้จะมีการประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบอยู่แล้ว

แก๊สน้ำตา (Tear gas / Lachrymatory agent / Lachrymator) เป็นสารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในการสยบคู่ต่อสู้ให้หยุดการปฏิบัติการทุกอย่าง เหมาะสำหรับการควบคุมฝูงชน การจลาจล แก๊สน้ำตามีทั้งชนิดยิงและชนิดขว้าง โดยมีส่วนผสมที่คล้ายๆ กัน

สารที่ใช้เป็นแก๊สน้ำตามีลักษณะเป็นฝุ่นผงหลายแบบ เช่น สเปรย์พริกไทย (Pepper spray หรือ OC gas) แก๊สซีเอส (CS gas) แก๊สซีอาร์ (CR gas) แก๊สซีเอ็น (CN gas หรือ Phenacyl chloride) เป็นต้น

ในประเทศไทย แก๊สน้ำตาถูกนำเข้ามาใช้ครั้งแรกในช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ไม่นาน โดยกระทรวงมหาดไทยมีการแถลงข่าวสาธิตการใช้ที่สนามเป้าและสามเสน

แก๊สน้ำตาทำงานโดยการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา จมูก ปาก และปอด ซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำตาไหล จาม ไอ หายใจลำบาก ปวดตา ตาบอดชั่วคราว ฯลฯ โดยปกติทั่วไปปฏิกิริยาดังกล่าวจะเกิดหลังถูกแก๊สน้ำตาประมาณ 20-60 วินาที ในรัศมี 150 ตารางเมตร และจะหายภายใน 30 นาที หลังจากออกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ รพ.พระนั่งเกล้า กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อวัยวะที่โดนแก๊สน้ำตาจะปรากฏอาการดังนี้

ดวงตา - ทำให้เยื่อบุตาขาวอักเสบ บวม แดง แก้วตาดำขุ่น เหมือนถูกความร้อน ถูกลวก ทำให้เกิดอาการมัวชั่วคราว ถ้าถูกแรงมากจะซึมผ่านไปในแก้วตาดำทุกชั้น ส่งผลให้แก้วตาดำเสื่อมแบบถาวร การสูญเสียดวงตาขึ้นอยู่กับความรุนแรง เช่น ไปอยู่ใจกลางที่แก๊สน้ำตาลงตรง ๆ แต่ถ้าโดนเพียงลมโชยผ่านก็ไม่เป็นอะไรมาก

ผิวหนัง - เกิดอาการคัน บวม แดง แสบ

จมูก - เกิดอาการแสบ บวม ร้อน คัดจมูก ถ้าลงไประบบทางเดินหายใจ ลงไปในปอด ทำให้ปอดอักเสบได้เช่นกัน

ปาก - ทำให้เยื่อบุหลอดอาหารบวมแดง กลืนลำบาก

แหล่งข้อมูล:

  1. ตร.เผยของเหลวใช้สลายม็อบมีผลต่อร่างกาย แต่จะไม่ยกเลิก http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000151000&Keyword=%e1%a1%ea%ca%b9%e9%d3%b5%d2 [2013, December 13].
  2. Tear Gas - http://en.wikipedia.org/wiki/Tear_gas [2013, December 13].
  3. รับมือ “แก๊สน้ำตา” - คุณหมอขอบอก http://www.dailynews.co.th/Content/Article/199989/รับมือ+’แก๊สน้ำตา’+-+คุณหมอขอบอก [2013, December 13].