เฮชไอวี VS เอดส์ (ตอนที่ 1)

เฮชไอวีVSเอดส์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหประชาชาติเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ต้นเหตุของเอดส์หรือโรคภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องเนื่องในวันเอดส์โลก (วันที่ 1 ธันวาคม) โดยระบุว่า

เวลานี้มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกอยู่ที่ราว 36.9 ล้านคน รวมทั้งผู้ป่วยเด็กราว 2.6 ล้านคน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ตลอดช่วงปี 2557 อยู่ที่ราว 2 ล้านคน จำนวนผู้ติดเอชไอวีวัยผู้ใหญ่ตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นราว 3 เท่า ข้อมูลจนถึงปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากเอดส์แล้วราว 34 ล้านคน รวมทั้งผู้เสียชีวิตเด็ก 1.2 ล้านคน

ขณะที่โรคเอดส์ ถือเป็นสาเหตุการตายของผู้ใหญ่ในพื้นที่ทวีปแอฟริกามากอันดับ 1 และเป็นสาเหตุของชาวโลกวัยผู้ใหญ่เสียชีวิตมากอันดับ 2 ทวีปแอฟริกามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่สูงที่สุด โดยผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ 7 ใน 10 ราย เป็นผู้หญิงอายุเฉลี่ยแค่ 15-19 ปี

เชื้อไวรัสร้ายแรงชนิดนี้ยังไม่มีทางรักษาหายขาด ถูกค้นพบมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 โดยสหประชาชาติตั้งเป้าหมายที่จะกำจัดเอดส์ให้หมดจากโลกภายในปี พ.ศ.2573 ส่วนกระบวนการเยียวยาบำบัดอาการป่วยช่วงปีนี้มีผู้ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์มากราว 15 ล้านคน เทียบกับช่วงปี พ.ศ.2544 ที่ผู้ป่วยได้รับยาต้านเอดส์เพียงราว 1 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม แม้กระบวนการตรวจสอบการติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ในปัจจุบันจะทำได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีผู้คนรู้ตัวว่าติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่เพียงร้อยละ 51 ขณะที่คิวบาเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศไม่พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีแบบถ่ายทอด จากมารดาสู่ทารก

ด้านนางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เอดส์เป็นโรคติดต่อที่มีการแพร่ระบาดมานานกว่า 30 ปี และถึงแม้จะมีการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้การติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เป็นศูนย์ได้

ปัญหาโรคเอดส์จึงไม่ใช่เพียงปัญหาด้านสุขภาพ แต่ยังเป็นปัญหาสังคมที่ทุกหน่วยงานควรเข้ามาร่วมกันในการแก้ไข เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบัน พบว่ามีการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เกิดขึ้นวันละ 5-6 คน และมากกว่าร้อยละ 50 เป็น กลุ่มเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี

การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย จึงจำเป็นต้องรณรงค์สร้างความตระหนักให้เยาวชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตน โดยการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง เพราะคนที่ติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่นั้น จะไม่สามารถมองออกด้วยตาเปล่า ต้องเจาะเลือดตรวจหาการติดเชื้อจึงจะทราบ

ซึ่งโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครมีคลีนิกให้บริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีให้ฟรี และผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีปัจจุบันก็มีการดูแลรักษาให้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุขกับคนอื่นทั่วไปในสังคมได้

แหล่งข้อมูล

1. ยูเอ็นเผยข้อมูลภัยเอดส์ยังคุกคามชาวโลก. http://www.thairath.co.th/content/543079[2015, December 17].

2. รณรงค์วันเอดส์โลก ลดผู้ป่วยรายใหม่. http://www.ryt9.com/s/nnd/2310769[2015, December 17].