เอ๊ะเกี่ยวกันได้ไง ! แป้งฝุ่นกับมะเร็งรังไข่ (ตอนที่ 1)

เอ๊ะเกี่ยวกันได้ไงแป้งฝุ่นกับมะเร็งรังไข่

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวอันตรายจากการทาแป้งฝุ่นในสังคมออนไลน์ จนสร้างความกังวลให้กับประชาชนทั่วไปว่า แป้งฝุ่นโรยตัวและแป้งฝุ่นผัดหน้า มีส่วนประกอบหลักคือ ทัลค์ (Talc) หรือทัลคัม (Talcum) ชื่อทางเคมีคือ ไฮดรัส แมกนีเซียมซิลิเกต

ซึ่งเป็นสารอนินทรีย์ มีอยู่ในธรรมชาติ ลักษณะเป็นผงสีขาวหรือสีครีม มีคุณสมบัติทนความร้อน ทนกรด ต้านทานต่อการนำไฟฟ้า ช่วยการผสมผสานและดูดซึมซับความชื้น ทำให้พื้นผิวแห้งเนียนลื่น ไม่ดูดติดกัน ดังนั้น จึงนิยมนำไปใช้ประโยชน์ในทุกวงการ เช่น สี สารหล่อลื่น เซรามิกกันไฟ แก้ว ผลิตภัณฑ์ขัดล้างทำความสะอาด กระดาษ ยาง ยา และเครื่องสำอาง

นพ.อภิชัย กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า ทัลค์ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อสัตว์ทดลอง ไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ และไม่เป็นสารก่อมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางนั้น ทัลค์จะต้องมีความบริสุทธิ์สูง ผ่านการบดและคัดแยก มีขนาดตั้งแต่ 0.3 - 75 ไมโครเมตร ไม่มีอนุภาคแข็ง ไม่มีสิ่งแปลกปลอมที่มองเห็นได้ และต้องไม่พบแร่ใยหิน

สำหรับการผลิตทัลค์จากแหล่งหินตามธรรมชาติอาจมีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน ดังนั้น สำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เฝ้าระวังความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์แป้งที่มีส่วนผสมของทัลค์ในปีงบประมาณ 2556 - 2558 จำนวน 73 ตัวอย่าง พบว่า ทุกตัวอย่างไม่พบการปนเปื้อนของแร่ใยหิน

นพ.อภิชัย กล่าวอีกว่า ทัลค์เป็นสารอนินทรีย์ จึงไม่ถูกย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ดังนั้น การทาแป้งโดยเฉพาะตอนโรยแป้ง ผงแป้งจะลอยในอากาศ หากสูดดมเข้าไปทางลมหายใจเป็นเวลานานจะเกิดการสะสมเป็นก้อนในปอด ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ

ในเด็กทารกอาจทำให้ปอดอักเสบและตายได้ ส่วนในสตรีหากใช้โรยบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการโรยแป้งไปที่ตัวเด็กโดยตรง และสตรีไม่ควรโรยแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น

แป้งฝุ่น (Talcum powder) ทำมาจากทัลค์ (Talc) ซึ่งเป็นแร่ชนิดหนึ่ง เป็นผลึกของสารประกอบแมกนีเซียม (Magnesium) ซิลิคอน (Silicon) และออกซิเจน

ทัลค์มีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้น ลดแรงเสียดทาน ทำให้ผิวแห้งเนียนและช่วยป้องกันผื่นคัน นิยมใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง เช่น แป้งฝุ่นเด็ก แป้งโรยตัวผู้ใหญ่ และแป้งผัดหน้า

ทัลค์บางตัวมีส่วนผสมของแร่ใยหิน (Asbestos) ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งในปอดได้เมื่อมีการสูดหายใจ ส่วนทัลค์ที่ไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน (Asbestos-free talc) ที่นิยมใช้กันนั้น ยังอยู่ระหว่างการวิจัยว่าทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่

อย่างไรก็ดี มีคำแนะนำว่าไม่ควรใช้แป้งฝุ่นกับบริเวณเฉพาะที่ อย่างจุดซ่อนเร้นของสตรี ผ้าอนามัย หรือถุงยางอนามัย ซึ่งแป้งอาจซึมเข้าสู่ช่องคลอด (Vagina) มดลูก (Uterus) และ ท่อนำไข่ (Fallopian tubes) ไปยังรังไข่ได้

แหล่งข้อมูล

1. เตือนสาวๆ ทาแป้งฝุ่น "จุดซ่อนเร้น" เสี่ยงมะเร็งรังไข่. http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9580000120340[2015, November 3].

2. Talcum Powder and Cancer. http://www.cancer.org/cancer/cancercauses/othercarcinogens/athome/talcum-powder-and-cancer[2015, November 3].