เล่าเรื่องปวดหัว ตอนที่ 4 หมอถามมากจัง ผมรำคาญ

เล่าเรื่องปวดหัว

การสอบถามข้อมูลการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการให้การวินิจฉัยโรคทุกโรค ยิ่งอาการปวดหัว การรู้ข้อมูลการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นที่จำเป็นต้องเริ่มจากการทราบข้อมูลในผู้ป่วยทุกคน

“หมอครับ หมอถามอะไรผมมากจังครับ ผมปวดหัวเข้าใจหรือเปล่าครับ ผมปวดหัว หมอมาถามอยู่ได้ว่า มีโรคประจำตัวอะไร กินยาอะไร นอนหลับหรือไม่ นอนดึกหรือเปล่า มีอุบัติเหตุมาหรือไม่ ไข้สูงหรือต่ำ อาเจียนหรือตาพร่ามัวหรือไม่ เป็นมานานเท่าไหร่ ปวดแรงหรือไม่ ปวดแรงจนร้องไห้เปล่า ถามประมาณ 100 คำถาม ผมจะตอบได้อย่างไร ผมปวดหัว ทำไมหมอไม่รีบรักษา สั่งยา สั่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเลยก็เรียบร้อย ทำไมถึงมัวถามอยู่ได้ ผมขอโทษนะครับผมปวดหัว ไม่ได้ปวดอย่างอื่นๆ”

อย่างที่ผมเคยเล่ามาแล้วว่าขั้นตอนการวินิจฉัยโรคประกอบด้วย การได้ประวัติการเจ็บป่วยที่ละเอียดและถูกต้อง การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติมทางห้องแล็ปหรือเอกซเรย์ โดยขั้นตอนใหญ่ๆ 2 ขั้นตอนแรก ก็สามารถให้การวินิจฉัยโรคและให้การรักษาได้มากกว่าร้อยละ 90 แล้วครับ ยิ่งอาการปวดหัวผู้ป่วยมักตรวจไม่พบความผิดปกติใด เป็นมานาน ผ่านการรักษามามาก ทานยามาก็เยอะ ดังนั้นประวัติการเจ็บป่วยจึงสำคัญที่สุด

ประวัติอะไรบ้างที่หมอต้องถาม แล้วมันบอกอะไรเราได้จากประวัติ ผมขอยกตัวอย่างให้ดู เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้ครับ

  1. ลักษณะการปวด ปวดแบบไหน จะบอกได้ว่าเป็นโรคปวดศีรษะจากอะไร เช่น ปวดแบบตุ้บๆ ก็จะเป็นการปวดไมเกรน ปวดแบบตื้อๆ รัดๆ ก็เป็นปวดจากความเครียด เป็นต้น
  2. ปวดตรงไหน เพราะคำว่าปวดหัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน และอาการปวดที่อยู่ตั้งแต่คอขึ้นมาก็เรียกว่าปวดหัวหมดเลย ดังนั้นการรู้ตำแหน่งของการปวดหัวจะช่วยได้มาก เช่น ปวดบริเวณขมับและเบ้าตาก็น่าจะเป็นไมเกรน ปวดบริเวณขมับ 2 ข้างและท้ายทอยก็น่าจะเป็นจากความเครียด
  3. ความแรงของการปวด ถ้าปวดรุนแรงมากๆ ก็อาจบอกได้ว่าเป็นไมเกรน หรือปวดศีรษะที่มีสาเหตุร้ายแรง ถ้าปวดพอรำคาญก็เป็นจากความเครียด เป็นต้น
  4. ปวดเวลาไหน ก็บอกโรคได้ครับ เช่น ปวดเวลาเดิมๆ ของทุกวัน ก็จะบอกได้เลยว่าเป็นปวดศีรษะคลัสเตอร์ ปวดช่วงมีรอบประจำเดือนก็อาจเป็นไมเกรน ปวดช่วงเวลาบ่ายๆ หลังทำงานหรือหลังประชุมก็น่าจะเป็นความเครียด
  5. ปวดหัวร่วมกับมีไข้สูง อาเจียน ตึงต้นคอก็น่าจะเป็นการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง
  6. ปวดศีรษะในคนที่เป็นโรคหูน้ำหนวก หัวใจพิการแต่กำเนิด มีไข้ก็น่าจะเป็นฝีในสมองทำให้ปวดหัว เป็นต้น
  7. ประวัติทางการแพทย์เหล่านี้ เป็นเพียงตัวอย่างที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น และเชื่อผมเถอะครับว่า ประวัติทางการแพทย์สำคัญจริงๆ อย่างเพิ่งรำคาญถ้าหมอถามมากๆ ถ้าไม่ถามอะไรเลยน่ารำคาญกว่าครับ