เล่าเรื่องปวดหัว ตอนที่ 2 ปวดหัวมีกี่แบบ
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 22 เมษายน 2559
- Tweet
ความเดิมตอนที่แล้วเราได้คุยกันไว้ว่า อาการปวดศีรษะมีสาเหตุหลักเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่สามารถตรวจพบความผิดปกติในสมองหรือโพรงกะโหลกศีรษะได้ กลุ่มนี้อาจเรียกว่ากลุ่มที่ไม่มีอันตราย และกลุ่มที่ตรวจพบความผิดปกติในสองหรือโพรงกะโหลกศีรษะ กลุ่มนี้จะมีอันตราย ถ้าไม่รักษาให้ถูกต้องอาจเสียชีวิตหรือพิการได้ เรามารู้จักอาการและสาเหตุของการปวดศีรษะในแต่ละกลุ่มให้ละเอียดขึ้นดีกว่า
ก. กลุ่มแรกคือ กลุ่มที่ไม่สามารถตรวจพบความผิดปกติในสมองหรือโพรงกะโหลกศีรษะหรือกลุ่มที่ไม่มีสาเหตุอันตราย ร้ายแรงใดๆ เป็นกลุ่มที่พบมากที่สุด ประมาณว่าร้อยละ 95-97 ของผู้ป่วยทั้งหมด ภาษาทางการเรียกว่า functional headache ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีสาเหตุหลักๆ ได้แก่
- ปวดศีรษะไมเกรน (migraine headache)
- ปวดศีรษะจากความเครียด (tension typed headache)
- ปวดศีรษะคลัสเตอร์ (cluster headache) และ
- อื่นๆ เช่น ปวดศีรษะข้างเดียวตลอดเวลา (hemicranial continua) ปวดศีรษะแบบทิ่มแทง (stapping pain) เป็นต้น
ลักษณะการปวดหัวที่สำคัญในกลุ่มนี้ คือ
- อาการปวดศีรษะนั้นจะเป็นๆ หายๆ เป็นเรื้อรังส่วนใหญ่ เป็นเอง หายเอง
- อาการปวดศีรษะที่พบไม่มีความผิดปกติทางระบบประสาทที่ถาวร เป็นเพียงชั่วคราวและหายเองได้ เช่น ปวดศีรษะคลัสเตอร์ ปวดศีรษะไมเกรน เป็นต้น
- ไม่พบความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้สูง อาเจียน ตามองเห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท
- อาการเป็นๆ หายๆ มานานหลายๆ ปี โดยที่ไม่มีผลแทรกซ้อนอื่นๆ
- ตรวจร่างกายทางระบบประสาทและระบบทั่วไปไม่พบความผิดปกติใดๆ
- ถ้าไปตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือเอ็มอาร์ไอสมองก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ เช่นกัน
ข. กลุ่มสอง คือ กลุ่มที่ตรวจพบความผิดปกติในสองหรือโพรงกะโหลกศีรษะ กลุ่มนี้จะมีอันตราย ถ้าไม่รักษาให้ถูกต้องอาจเสียชีวิตหรือพิการได้ เรียกว่ากลุ่ม organic headache สาเหตุที่พบ คือ
- เนื้องอกในสมอง ทั้งในส่วนที่เป็นเนื้องอกในเนื้อสมองเองหรือเนื้องอกจากอวัยวะส่วนอื่นแล้วกระจายมาที่สมอง
- ภาวะติดเชื้อในสมองและเยื่อหุ้มสมอง โพรงหลอดเลือดดำ โพรงไซนัส ช่องหูและอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณศีรษะทั้งหมด
- อุบัติเหตุต่อสมอง เช่น เลือดออกในสมอง กะโหลกศีรษะแตก ร้าว
- โรคของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5,9 เส้นประสาทของกระดูกสันหลังระดับคอที่ 1,2 เป็นต้น
- โรคของตา หู โพรงไซนัสที่ทำให้มีอาการเจ็บปวดทั้งหมด
- การติดเชื้อในกระแสเลือด (sepsis)
- ความผิดปกติของระบบอื่นๆ ในร่างกายและส่งผลต่อระบบประสาทและสมอง เป็นต้น
ลักษณะการปวดศีรษะที่สำคัญ ที่ควรต้องรีบพบแพทย์รีบไปโรงพยาบาล คือ
- อาการปวดศีรษะเป็นอาการใหม่ ไม่เคยแบบนี้มาก่อน
- การดำเนินโรคเป็นขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
- อาการปวดศีรษะไม่ตอบสนองต่อการทานยาแก้ปวด
- มีอาการผิดปกติในส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย
- มีความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท มองเห็นภาพซ้อน ภาพไม่ชัดเจน
- มีอาการหลังจากประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะ
- มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อในสมองหรือเลือดออกในสมอง
- ทานยาละลายลิ่มเลือด ยากดภูมิคุ้มกัน/ต้านทาน เป็นต้น
ตอนนี้ทุกคนได้ทราบแล้วว่าอาการปวดศีรษะมี 2 กลุ่มอาการ และลักษณะแบบไหนที่อันตราย แบบไหนไม่อันตราย ติดตามตอนต่อไปครับว่า แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรดูแลตนเองได้ เมื่อไหร่ที่ต้องรีบไปพบแพทย์ครับ พบกันครับตอนต่อไป