เล่าเรื่องปวดหัว ตอนที่ 11 ปวดหัวหอย

เล่าเรื่องปวดหัว

ปวดหัวหอยครับ ไม่ใช่หอยปวดหัวนะครับ ปวดหัวหอยคืออะไร ปวดหัวหอยคืออาการปวดหัวที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิปอดหนูที่ติดต่อโดยการทานหอยน้ำจืด ปลาน้ำจืด แล้วติดเชื้อพยาธิตัวนี้เข้าไป เมื่อพยาธิซึ่งหลงเข้ามาในตัวคน ก็พยายามหาทางออก แล้วมันก็ชอบเดินทางไปที่เยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหัวได้รุนแรง จึงเรียกสั้นๆว่า “ปวดหัวหอย”

“หมอครับ ผมปวดหัวมา 3 วันครับ ปวดแรงมากขึ้นๆ วันแรกที่ปวดก็ไปซื้อยาแก้ปวดมาทาน แต่ก็ไม่ดีขึ้น วันที่ 2 ก็เลยไปที่โรงพยาบาล หมอก็ตรวจไม่พบความผิดปกติ ได้ยามาทานอีก แต่ก็ไม่ดีขึ้น ปวดรุนแรงขึ้นจึงมาหาหมอวันนี้ครับ” กรณีแบบนี้คือมีอาการปวดหัวมาเพียง 3 วัน ต้องคิดว่าเป็นกลุ่มที่มีสาเหตุแน่นอน จึงเริ่มสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ความว่า ผู้ป่วยไปทานหอยดิบมาเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน หลังจากนั้น 3 วันก็เริ่มปวดหัวเล็กน้อย แล้วก็ค่อยๆ เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมลงมือตรวจร่างกายด้วยการให้ผู้ป่วยก้มศีรษะว่าสามารถเอาคางมาชิดหน้าอกได้หรือไม่ ผลปรากฏว่าเจ็บตึงต้นคอมาก ก้มไม่ได้แสดงว่ามีการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองแน่นอน ผมจึงได้ตรวจส่วนอื่นๆ ต่ออีก ก็ไม่พบความผิดปกติอื่นๆ จึงได้บอกกับผู้ป่วยไปว่า

“ผมทราบสาเหตุการปวดหัวแล้วครับ หมอสงสัยว่าเป็นปวดหัวหอยมากที่สุดครับ ผมต้องขอเจาะหลังเอาน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังมาตรวจครับ” ตกลงเลยครับ ทำอะไรก็ได้ครับ เพราะผมปวดมากเลย อยากหายครับ

ผมดำเนินการเจาะหลัง ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย ผลการตรวจพบลักษณะเข้าได้กับการติดเชื้อพยาธิจริงๆ จึงได้ให้การรักษาด้วยการเจาะระบายน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง เนื่องจากมีความดันในโพรงสมองสูงมาก การเจาะระบายเอาน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังออก เป็นการรักษาที่ดีที่สุด

อาการผู้ปวยก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ในวันรุ่งขึ้นอาการก็ดีขึ้นมากๆ แล้วกลับบ้านในวันต่อมา ก่อนกลับผู้ป่วยบอกกับผมว่า “หมอครับขอบคุณมาก และต่อจากนี้ไปผมจะบอกให้ทุกคนเลิกทานหอยดิบ ผมเองจะไม่ให้เอาหอยดิบเข้าบ้านเด็ดขาด”