สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน สีของดวงตา

เรื่องน่ารู้จากหมอตา-6

มีผู้รายงานไว้ว่า ชาวอเมริกันกว่าครึ่งมีม่านตาออกสีน้ำตาล และคาดว่ากว่าครึ่งของประชากรทั่วโลกมีตาเป็นสีน้ำตา การที่เราเห็นว่าตาแต่ละคนเป็นสีต่างๆ นั้น เป็นสีของม่านตา (iris) ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12 ม.ม. มีรูตรงกลาง (ลักษณะเหมือนสตางค์แดงที่มีรูตรงกลาง) วางอยู่หน้าแก้วตา เรียกรูตรงกลางว่ารูม่านตา (pupil) ซึ่งทางการแพทย์ใช้ขนาดปฏิกิริยาต่อแสงของรูม่านตา วินิจฉัยภาวะทางร่างกายและโรคต่างๆได้

การที่ม่านตาคนเรามีสีออกน้ำตา เกิดจากมีสารสี melanin อยู่ในเซลล์ของม่านตามาก เช่นเดียวกับที่ melanin มีในผม ผิวหนังมากน้อย ทำให้คนเรามีผิวสีแตกต่างกัน คนที่มี melanin มาก ตาจะออกสีน้ำตาลเข้ม ถ้ามี melanin น้อยตาจะออกสีฟ้า เขียว หรือน้ำตาลอ่อน ตัว melanin จะดูดซับแสงมาก ถ้ามี melanin น้อย มีการดูดซับแสงได้น้อย จึงกระจายและสะท้อนออกไปเป็นสีอ่อน ซึ่งทำให้เห็นตาเป็นสีฟ้า หาใช้มีเม็ดสีฟ้าไม่

มีการศึกษาพบว่า การที่ม่านตาจะมีสีอะไร อยู่ในการควบคุมของ gene ประมาณ 16 ตัว จึงค่อนข้างซับซ้อน หาก พ่อ-แม่ มีตาสีเดียวกัน ลูกอาจมีสีตาอื่นที่ไม่เหมือน พ่อ-แม่ ก็ได้ เด็กแรกเกิดจะมีสีตาค่อนข้างอ่อนภายใน 12 เดือนมีการสร้าง melanin เพิ่มขึ้น ตาจะสีเข้มขึ้น หากมีโรคตาบางอย่าง สีของม่านตาอาจเปลี่ยนไม่ได้ ลักษณะของม่านตาจะเป็น จีบ มีสัน (crypt) แตกต่างกันในแต่ละบุคคลไม่ซ้ำกัน จึงมีการถ่ายรูปม่านตา เพื่อใช้แสดงตัวตนของบุคคลเฉกเช่นลายนิ้วมือได้

มีคนศึกษาพบว่า ผู้มีม่านตาสีเข้ม จะลดการเกิดเนื้องอกในตา, ลดอุบัติการณ์ของจอตาเสื่อม (macular degeneration)ดังจะเห็นโรคนี้พบมากในคนผิวขาวหรือคนตาสีฟ้า, และชะลอภาวะจอตาเสื่อมจากเบาหวาน (diabetic retinopathy)