สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน Ketogenic diet (KD)

เรื่องน่ารู้จากหมอตา-41

      

      วันนี้ขอเล่าสู่กันฟัง เรื่อง อาหารสูตรหนึ่ง คือ low carbohydrate high fat หรือ Ketogenic diet (KD)

      ต้นแบบของอาหาร ketogenic หรือเรียกกันอีกอย่างว่า low carbohydrate high fat (LCHF) นั้น ประกอบด้วยไขมันเป็นหลัก ได้แก่ ไขมัน 80-90% โปรตีน 8-15% คาร์โบไฮเดรต 2-5% ด้วยจำนวนนี้ทำให้ร่างกายคนเราเสมือนหนึ่งอยู่ในภาวะ fasting (อดอาหาร) ที่ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย กล่าวคือ ยังมีพลังงานช่วยร่างกายพอเจริญได้ และพลังงานส่วนใหญ่มาจากไขมันที่มาจากอาหารและไขมันที่สะสมไว้ในร่างกาย ทำให้มี ketone จากไขมันมากที่เรียกกันว่าเป็น “state of ketosis”

      ระยะหลัง ๆ อาจมีการดัดแปลงของสูตรอาหารนี้ เช่น ใช้ไขมันประเภท medium chain ของ triglyceride อาจจะเพิ่ม protein ขึ้นมาบ้าง ลดจำนวนไขมันลงบ้าง โดยเอาคาร์โบไฮเดรตจากพืชมาแทน

      เพื่อให้ได้อาหารสูตรนี้ จึงควรหลีกเลี่ยง

      - ข้าว ประเภทข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ pasta และ cereal

      - ประเภทถั่วรวมทั้งพืชที่มีฝัก

      - ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงได้แก่ กล้วย แอปเปิ้ล ส้ม

      - Refine fat และ oil ตลอดจนน้ำมันพืช

      - น้ำตาล

      - Alcohol

      และควรรับประทานจำพวกเนื้อไม่ปรุงแต่ง เช่น จำพวกเนื้อวัน เนื้อหมู เป็ด ไก่ ปลา ไข่ cheese, avocado, น้ำมัน olive, น้ำมันมะพร้าว ตลอดจนผักที่มีแป้งน้อย เช่น ผักสลัด, ผักเขียว, บล็อกเคอรี่ เป็นต้น

      โรคและภาวะต่าง ๆ ที่ควรใช้และมีการศึกษาว่าได้ผลดีในอาหารสูตรนี้ได้แก่

      1. Epilepsy เริ่มมีการแนะนำให้ใช้อาหารสูตรนี้ในผู้ป่วยตั้งแต่ปี 1921 ร่างกายอยู่ในภาวะอดอาหาร สามารถลดการชักไปได้ โดยเฉพาะในเด็กโรคลมชักที่ดื้อต่อยา

      2. ภาวะ type 2 DM, ลดความอ้วน อาหารสูตรนี้ช่วยปรับระดับน้ำตาลและ insulin sensitivity และการลดคาร์โบไฮเดรตทำให้น้ำหนักลดลง

      3. รักษามะเร็งบางชนิด เช่น glioma ผู้ป่วยที่ใช้อาหารสูตรนี้มีผลดีต่อโรคโดยทำการ MR scan พบ ketone body บริเวณตัวเนื้องอก และอาการผู้ป่วยทรงตัวอยู่กับที่เป็นระยะเวลานาน การลดคาร์โบไฮเดรตมีผลดีเนื่องจาก เซลล์มะเร็ง ใช้น้ำตาลเป็นสารก่อพลังหลัก

      4. โรคทางระบบประสาทอื่น ๆ เช่น โรค migraine อาหารสูตรนี้ทำให้อาการลดลง อาหารสูตรนี้ยังช่วยให้เซลล์ในสมองทำงานได้ปกติหรือบรรเทาอาการต่าง ๆ ในภาวะ Alzheimer, Parkinson, Amyotrophic lateral sclerosis ตลอดจนภาวะ Brain injury ให้อาการผิดปกติลดลง

      5. เพิ่มความอดทน แข็งแกร่ง ให้แก่นักกีฬามากขึ้น

      6. ล่าสุดมีรายงานพบว่า ชลอการสูญเสียของเซลส์ในจอประสาทตาในโรคต้อหินในสัตว์ทดลอง