สาระน่ารู้จากหมอดตาตอน บางอย่างเกี่ยวกับภูมิแพ้ที่ตา
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
- 4 มกราคม 2561
- Tweet
โรคภูมิแพ้ที่ตา มักแสดงที่เยื่อบุตา (Allergic Conjunctivitis) ที่รู้จักกันดี อาจแยกเป็นกลุ่มจากอาการลักษณะทางคลินิคที่ต่างกันออกเป็น 5 กุล่ม ได้แก่
1. seasonal allergic conjunctivitis (SAC)
2. perennial allergic conjunctivitis (PAC)
3. vernal keratoconjunctivitis (VKC)
4. atopic keratoconjunctivitis (AKC)
5. giant papillary conjunctivitis (GPC)
ยังมีบางอย่างที่อาจสับสน หรือเชื่อผิด ๆ มานาน ซึ่งลงใน medscape.com เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2517 ได้กล่าวว่า
1. ที่เชื่อกันว่า SAC, PAC เป็นไปตามฤดูกาลนั้น ไม่ถูกต้องเสมอไป เป็นได้ทุกฤดู เป็น type I hypersensitivity เกิดจากมีการหลั่ง histamine ทันทีหลังถูกสารที่แพ้ (allergen) จาก immunoglobulin E ภาวะ SAC, PAC มักจะไม่รุนแรง ผิดกับ VKC และ AKC ที่มักจะเป็นเรื้อรัง ที่มีทั้ง immediate และ delay hypersensitivity อาการรุนแรงกว่า
2. ร้อยละ 40-80 ของผู้ป่วยภูมิแพ้มีอาการทางตา บางคนมีอาการทางตาอย่างเดียว ผู้มีภูมิแพ้ทางจมูก มักมีอาการทางตาด้วยถึง 50% ที่เชื่อกันว่า การใช้ยาแก้แพ้ด้วยยารับประทานจะได้ผลดีนั้นไม่ถูกต้อง ยาแก้แพ้ชนิดหยอดได้ผลดีกว่า เพราะการใช้ยาแก้แพ้ (antihistamine) ชนิดรับประทาน อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง มีความผิดปกติของผิวตา (ocular surface abnormality) อาการกลับแย่ลง
3. ในสรอ เดิม เชื่อกันว่ามีผู้ป่วยภูมิแพ้มากเฉพาะบางบริเวณของประเทศ ไม่เป็นความจริง พบโรคภูมิแพ้ได้ทั่วไป แต่จะแพ้สารแตกต่างกัน ที่พบบ่อยอาจเป็นแพ้ละอองเกสร เชื้อรา ไรฝุ่น แมลงสาป ขนสัตว์ เป็นต้น
4. การตรวจพบตุ่มที่เรียกว่า papilla ที่พบใน palpebral conjunctiva แตกต่างกัน ถ้าเป็น SAC, PAC จะมีขนาดเล็ก ถ้าเป็น GPC มักใหญ่กว่า 1 มม. ในขณะที่ VKC มีลักษณะที่เรียกกันว่า Cobble stone การตรวจพบ papilla ไม่ได้หมายความว่าต้องให้ยาจนกว่าจะยุบ
5. ที่ทราบกันว่าอาการคันตาเป็นอาการเฉพาะของโรคภูมิแพ้ไม่ถูกต้องเสมอไป ภาวะตาแห้งก็มีอาการคันได้ ถ้าคันตาร่วมกับมีน้ำตาน่าจะเป็นภูมิแพ้ ถ้าร่วมกับแสบตาน่าจะเป็นภาวะตาแห้ง