เมื่อน้ำผึ้งกลายเป็นแบะแซ (ตอนที่ 1)

เมื่อน้ำผึ้งกลายเป็นแบะแซ

กรณีมีผู้บริโภคเกิดความสงสัยเคลือบแคลงว่า หากเผลอกินน้ำผึ้งปลอมโดยไม่รู้ตัวบ่อยๆ จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่อย่างไร เนื่องจากมีวางขายอยู่ทั่วไป และพิสูจน์ได้ยากระหว่างน้ำผึ้งแท้กับน้ำผึ้งปลอม ซึ่งน้ำผึ้งปลอมที่ถูกตรวจสอบส่วนมากทำมาจากแบะแซ มีสี กลิ่น และรสชาติคล้ายน้ำผึ้งมาก ดังนั้นหากใครบริโภคจำนวนมากย่อมมีผลเสียต่อสุขภาพแน่นอน

อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญโภชนาการและที่ปรึกษากรมอนามัย ได้ให้ความรู้ถึงสารให้ความหวาน “แบะแซ” ว่า เป็นสารให้ความหวานเหมือนน้ำตาล แต่ร้ายกว่าน้ำตาล กล่าวคือ มีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 6 เท่า

อาจารย์สง่า อธิบายว่า แบะแซมีลักษณะหนืดๆ ใสๆ สีน้ำตาลคล้ายน้ำผึ้ง ทำมาจากมันสำปะหลัง และแป้งข้าวโพด หากเรารับประทานเข้าไปมันจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และถ้าร่างกายใช้ไม่หมด จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และหากเรามีพฤติกรรมที่กินแล้วไม่ออกกำลังกายจะก่อให้เกิดโรคอ้วน กลายเป็นโรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง ทั้งนี้ โทษของแบะแซจะเหมือนน้ำตาล คือ ก่อโรคสารพัด ได้แก่ เบาหวาน ความดัน หัวใจและหลอดเลือด

อาจารย์สง่า กล่าวว่า เมื่อก่อนแบะแซจะอยู่ในขนมกระยาสารท หากเรารับประทานประมาณที่พอดีไม่มากเกินไปก็ไม่เป็นอะไร แต่ปัญหาคือ ปัจจุบันแบะแซมักถูกผสมอยู่ในอาหารและขนมหลากหลายชนิด โดยเฉพาะขนมกรุบกรอบที่มีลักษณะเหนียวๆ หนืดๆ ที่สำคัญมีพ่อค้าหัวใสนำไปทำน้ำผึ้งวางจำหน่าย ซึ่งผิด พรบ.อาหาร

ดังนั้นหากใครที่จะซื้อน้ำผึ้งมารับประทานควรสังเกตให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นรับประทานน้ำผึ้งปลอมที่ทำจากแบะแซ แทนที่จะได้คุณประโยชน์จากน้ำผึ้ง กลับกลายเป็นได้โทษของแบะแซไปแทน

แบะแซ หรือ น้ำเชื่อมกลูโคส หรือ กลูโคสไซรัป (Glucose syrup) เป็นสารให้ความหวาน (Sweetener) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย่อยโมเลกุลของแป้งให้เล็กลง (Starch hydrolysis)

โดยส่วนใหญ่กลูโคสไซรัปเป็นแป้งที่ได้จากมันฝรั่ง (Potatoes) และข้าวสาลี (Wheat) มีบ้างที่อาจได้จากข้าวบาร์เลย์ (Barley) ข้าวเจ้า (Rice) และ มันสำปะหลัง (Cassava) ส่วนที่เรียกว่า น้ำเชื่อมข้าวโพด หรือ คอร์นไซรัป (Corn syrup) นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้าวโพด (Maize / corn)

การผลิตน้ำเชื่อมกลูโคสมีวัตถุดิบหลัก คือ สตาร์ซ (Starch) จากแป้งชนิดต่างๆ นำมาผสมกับน้ำ แล้วทำให้สุก (Gelatinization) หลังจากนั้นน้ำแป้งสุกจะถูกย่อย (Hydrolysis) ด้วยกรด (Acid) หรือเอนไซม์ (Enzyme) ที่ย่อยสตาร์ชได้ เช่น Amylase เพื่อทำให้สตาร์ซมีขนาดโมเลกุลเล็กลง

โดยกระบวนการทำให้สตาร์ชมีโมเลกุลเล็กลงนี้ เรียกว่า Starch hydrolysis ได้เป็นน้ำเชื่อมกลูโคสที่เป็นของเหลวใส หวาน ข้นหนืด มีส่วนประกอบเป็น น้ำตาลกลูโคส (Glucose) มอลโทส (Maltose) และโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide)

แหล่งข้อมูล

1. กินน้ำผึ้งปลอม เสี่ยงสารพัดโรคเรื้อรัง. http://www.thaihealth.or.th/Content/31642-กินน้ำผึ้งปลอม เสี่ยงสารพัดโรคเรื้อรัง.html [2016, August 16].

2. Glucose syrup. https://en.wikipedia.org/wiki/Glucose_syrup [2016, August 16].

3. UPDATED FACTSHEET ON GLUCOSE FRUCTOSE SYRUPS, ISOGLUCOSE AND HIGH FRUCTOSE CORN SYRUP. http://www.aao.org/eye-health/diseases/what-is-dry-eye [2016, August 16].