เมื่อตับถูกกิน (ตอนที่ 9)

เมื่อตับถูกกิน

สำหรับผลข้างเคียงของการรักษาด้วยวิธีการทำอเบลชั่น ได้แก่ อาการปวดท้อง ติดเชื้อที่ตับ เลือดออกในช่องอกหรือช่องท้อง ตัวอย่างของการทำอเบลชั่น ได้แก่

  • การใช้ความร้อนฆ่าเซลล์ (Heating cancer cells) หรือที่เรียกว่า การผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency Ablation = RFA) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการผ่าตัดโดยใช้ความร้อน (Thermal ablation) เพื่อกำจัดหรือทำลายการทำงานของเนื้อเยื่อเป้าหมาย โดยใช้การอัลตราซาวด์หรือซีทีสแกนเป็นตัวนำทางให้แพทย์สอดเข็มเข้าทางช่องท้อง และเมื่อถึงเป้าหมายจะมีการปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง มักใช้รักษาก้อนมะเร็งที่มีขนาดเล็ก
  • การใช้ความเย็นฆ่าเซลล์ (Freezing cancer cells) เป็นการทำลายมะเร็งตับด้วยความเย็นจัด (Cryoablation) ด้วยการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Cryoprobe ที่บรรจุไนโตรเจนเหลว เช่นเดียวกัน มีการใช้อัลตราซาวด์เป็นตัวนำทาง อาจใช้รักษาก้อนมะเร็งที่มีขนาดใหญ่
  • การฉีดแอลกอฮอล์เข้าที่ก้อนเนื้อเพื่อให้เซลล์มะเร็งตาย (Ethanol ablation / alcohol ablation / percutaneous ethanol injection = PEI)

2.2 การบำบัดด้วยวิธีเอมโบไลเซชัน (Embolization therapy) หรือการอุดด้วยการฉีดสารบางชนิดเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เลือดไหลไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งตาย เป็นทางเลือกของการรักษาสำหรับผู้ที่ไม่สามารถทำการผ่าตัด และมีขนาดก้อนเนื้อที่ใหญ่เกินกว่าที่จะทำอเบลชั่น (มักจะใหญ่กว่า 5 ซม.) แต่ใช้ร่วมกับการทำอเบลชั่นได้ (สำหรับก้อนเนื้อที่มีขนาด 3-5 ซม.)

โดยอาศัยหลักที่ว่า ตับมีลักษณะพิเศษ คือ ได้รับเลือดจาก 2 ทาง คือ จากเส้นเลือดดำ (Portal vein) ร้อยละ 75 และจากเส้นเลือดแดง (Hepatic artery) ร้อยละ 25 แต่สำหรับก้อนมะเร็งแล้ว มักจะได้รับเลือดจากเส้นเลือดแดง ดังนั้นเมื่อเส้นเลือดแดงถูกทำให้อุดตัน ก้อนมะเร็งก็จะขาดออกซิเจนและสารอาหาร ในขณะที่ตับก็ยังคงได้เลือดเลี้ยงจากเส้นเลือดดำ ยาเคมีจะอยู่ในก้อนมะเร็งเป็นเวลานานได้ถึง 1 เดือนหลังจากที่ฉีดยาเคมี วิธีนี้ก้อนมะเร็งจะได้รับปริมาณยาเคมีมากถึง 20-200 เท่าเมื่อเทียบกับการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำที่แขน เพราะยาจะค้างอยู่ภายในก้อนมะเร็งแทนที่จะกระจายไปทั่วร่างกาย

อย่างไรก็ดี เพราะวิธีเอมโบไลเซชันสามารถลดปริมาณเลือดที่ไหลไปเลี้ยงเซลล์ปกติด้วย ดังนั้นวิธีนี้จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบหรือโรคตับแข็ง เช่นเดียวกัน หลังการรักษาด้วยวิธีนี้ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล ตัวอย่างของการทำเอมโบไลเซชัน ได้แก่

  • การรักษามะเร็งตับด้วยการฉีดยาเคมีบำบัดเข้าเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็งในตับ (Chemoembolization / trans-arterial chemoembolization = TACE))
  • การใส่สารกัมมันตรังสีขนาดเล็กเข้าไปในเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงตับ (Radioembolization / trans-arterial radioembolization) เป็นการฉีดไมโครสเฟียร์ (Microspheres) ที่มีสารรังสี Yttrium-90 เข้าไปในเส้นเลือดแดงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง โดยรังสีนี้จะคงอยู่ได้หลายวันและมีการกระจายตัวแคบ เฉพาะบริเวณก้อนเนื้อที่อยู่ใกล้กับตัวรังสีนี้

สำหรับผลข้างเคียงของการบำบัดด้วยวิธีเอมโบไลเซชัน ได้แก่ อาการปวดท้อง เป็นไข้ คลื่นไส้ ติดเชื้อในตับ ถุงน้ำดีอักเสบ และเลือดอุดตันในตับ และเนื่องจากเนื้อเยื่อตับที่ปกติอาจถูกทำลายไปด้วย ดังนั้น หลังการทำเอมโบไลเซชันตับอาจทำงานได้ไม่ดี

แหล่งข้อมูล

1. Liver Cancer. http://www.cancer.org/cancer/livercancer/ 2016, May 27].

2. Liver Cancer. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/liver-cancer/home/ovc-20198165 [2016, May 27].