เบรกซ์พิพราโซล (Brexpiprazole)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาเบรกซ์พิพราโซล(Brexpiprazole)เป็นยาที่ใช้รักษาโรคจิตประสาท/โรคจิต/โรคทางจิตเวช(Atypical antipsychotic) ทางคลินิกนำมาบำบัดอาการ โรคซึมเศร้า(Depression) โรคจิตเภท(Schizophrenia) ซึ่งรูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาเบรกซ์พิพราโซลคือยาชนิดรับประทาน หลังการดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร ตัวยานี้ในกระแสเลือดจะถูกตับทำลายอย่างต่อเนื่อง โดยร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 91 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยานี้ทิ้งไปกับอุจจาระและปัสสาวะ

ทั้งนี้การรับประทานยาเบรกซ์พิพราโซลตามขนาดที่แพทย์แนะนำเพียงครั้งเดียวต่อวันก็สามารถทำให้อาการซึมเศร้าหรืออาการจิตเภทดีขึ้นเป็นลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์จะไม่ใช้ยานี้รักษาอาการทางจิตประสาทกับผู้สูงอายุที่มีภาวะความจำเสื่อม เพราะยาเบรกซ์พิพราโซลอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย จนทำให้ผู้สูงอายุเสียชีวิต อีกประการ การใช้ยาเบรกซ์พิพราโซลรักษาอาการซึมเศร้ากับเด็กอาจกระตุ้นให้เด็กมีความรู้สึกอยากทำร้ายตนเอง จึงมีข้อห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา

นอกจากนี้ ยังมีอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากการใช้ยาเบรกซ์พิพราโซล อย่างเช่น

  • เกิดกลุ่มอาการเอ็นเอ็มเอส (Neuroleptic Malignant Syndrome/NMS) เป็นกลุ่มอาการอาจเกิดจากการรับประทานยารักษาโรคทางจิตเวชที่รวมถึง ยาเบรกซ์พิพราโซล อาการของเอ็นเอ็มเอสที่อาจสังเกตุเห็นได้ชัดเจนอย่างเช่น มีไข้สูง กล้ามเนื้อหดแข็งเกร็ง ชีพจรเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว หายใจขัด/หายใจลำบาก ตัวสั่น กรณีพบเห็นอาการเอ็นเอ็มเอส ต้องรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
  • กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา(Tardive dyskinesia) ผู้ป่วยที่ได้รับยารักษาทางจิตเวช อาจเกิดอาการบิดตัวไปมาซึ่งอาจเกิดกับกลุ่มสตรีสูงอายุที่มีการใช้ยาเบรกซ์พิพราโซลเป็นเวลานาน การแก้ไขต้องรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนวันนัด เพื่อแพทย์พิจารณาปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย
  • ระวังระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด สูงผิดปกติ รวมถึงระบบการเผาผลาญพลังงานของ ร่างกายเปลี่ยนแปลงจนทำให้มีน้ำหนักตัวสูงขึ้น กรณีเกิดภาวะน้ำตาลในเลือด สูงอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรด อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดภาวะโคม่า และเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นระหว่างที่ได้รับยาเบรกซ์พิพราโซล ผู้ป่วยต้องมารับ การตรวจระดับน้ำตาลรวมถึงไขมันในเลือดตามที่แพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • เกิดภาวะเลือดจางซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยอ่อนเพลียอย่างรวดเร็ว มีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ เจ็บช่องปาก ไอ มีอาการคล้ายเป็นโรคหวัดและหายใจขัด/หายใจลำบาก กรณีเช่นนี้ ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
  • ยารักษาอาการจิตประสาทหลายตัวอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ ผู้ป่วยจึงต้อง ได้รับการตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์/พยาบาล/เภสัชกร แนะนำ
  • ผู้ที่ได้รับยาเบรกซ์พิพราโซลอาจมีอาการกลืนอาหารลำบาก ซึ่งมักจะพบในผู้ป่วยที่มีโรคปอดบวมร่วมด้วย ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวควรรีบมาโรงพยาบาล ไม่ต้องรอถึงวันแพทย์นัด
  • ตัวยาเบรกซ์พิพราโซล อาจทำให้สภาพการรับรู้และการตัดสินใจด้อยลงไปแพทย์จึงแนะนำ ห้ามผู้ที่ได้รับยานี้ทำงานเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรต่างๆรวมถึงการขับรถทุกประเภท ด้วยจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ผู้ที่ได้รับยาเบรกซ์พิพราโซล ยังต้องระวังการรับประทานยานี้ร่วมกับยาอื่นๆ เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา จนทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบ(ผลข้างเคียง)จากยาต่างๆที่รุนแรงตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ยาต้านแบคทีเรีย(ยาปฏิชีวนะ) ยาต้านเชื้อรา ยาต้านเศร้า ยาต้านไวรัส ยารักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ และยากันชัก ดังนั้นห้ามผู้ป่วยที่ได้รับยาเบรกซ์พิพราโซลรับประทานยาอื่นร่วมกันโดยมิได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์เสียก่อน

สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการทราบข้อมูลการใช้ยาเบรกซ์พิพราโซล เพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดได้จากแพทย์ หรือจากเภสัชกรในสถานพยาบาลที่นำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้เสมอ

เบรกซ์พิพราโซลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

เบรกซ์พิพราโซล

ยาเบรกซ์พิพราโซลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • รักษาอาการทางจิตเภท
  • รักษาโรคซึมเศร้า

เบรกซ์พิพราโซลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาเบรกซ์พิพราโซล มีกลไกการออกฤทธิ์กับ ตัวรับ(Receptor)ในสมองได้หลายประเภท เช่น ที่ 5HT1A(5-hydroxytryptamine)receptor และ D2(Dopamine 2) receptor โดยตัวยาจะทำหน้าที่สนับสนุน(Agonist)กับตัวรับดังกล่าว ในขณะเดียวกันยาเบรกซ์พิพราโซล ยังออกฤทธิ์ที่ตัวรับชนิด 5HT2A, 5HT2B ซึ่งจะทำหน้าที่ปิดกั้นการทำงานของตัวรับ(Antagonist)ทั้งสอง ดังกล่าว แล้วก่อให้เกิดการปรับสมดุลของสารสื่อประสาทอย่างเช่น Dopamine จึงส่งผลให้การรับรู้ของสมองต่อสภาพแวดล้อมหรือต่อสิ่งเร้าที่ผู้ป่วยได้สัมผัส กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงกับภาวะปกติได้มากที่สุด จากกลไกในสมองนี้เองทำให้เกิดที่มาของสรรพคุณของยานี้

เบรกซ์พิพราโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเบรกซ์พิพราโซล มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วย Brexpiprazole ขนาด 0.25, 0.5, 1, 2, 3 และ 4 มิลลิกรัม/เม็ด

เบรกซ์พิพราโซลมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาเบรกซ์พิพราโซลมีขนาดรับประทาน เช่น

ก.สำหรับรักษาอาการทางจิตเภท:

  • ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18ปีขึ้นไป: เริ่มต้นรับประทานยาขนาด 1 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 4 วัน วันที่ 5–7 แพทย์อาจปรับเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 มิลลิกรัม/วัน และวันที่ 8 แพทย์อาจปรับเพิ่มขนาดเป็น 4 มิลลิกรัม/วัน ทั้งนี้ขนาดรับประทานสูงสุดอยู่ที่ 4 มิลลิกรัม/วัน

ข.สำหรับรักษาอาการซึมเศร้า:

  • ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18ปีขึ้นไป: เริ่มต้นรับประทานยาขนาด 0.5–1 มิลลิกรัม วันละ1ครั้ง หลังการใช้ยา 1 สัปดาห์ แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเป็น 2 มิลลิกรัม/วัน โดยขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 3 มิลลิกรัม/วัน

อนึ่ง:

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
  • ระยะเวลาของการใช้ยานี้ให้เป็นไปตามคำสั่งแพทย์
  • กรณีใช้ยานี้กับผู้สูงอายุ แพทย์อาจปรับลดขนาดรับประทานตามความเหมาะสมกับร่างกายผู้ป่วย
  • แพทย์อาจปรับลดขนาดการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคตับ โรคไต

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาเบรกซ์พิพราโซล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรความดันโลหิตสูง โรคความดันโลหิตต่ำ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเบรกซ์พิพราโซล อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาเบรกซ์พิพราโซล สามารถรับประทานทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า ให้รับประทานยาที่ขนาดปกติ

แต่อย่างไรก็ดี เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาเบรกซ์พิพราโซลตรงเวลา

เบรกซ์พิพราโซลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาเบรกซ์พิพราโซลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น หิวอาหารบ่อย ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น มีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ ปากแห้ง น้ำลายมาก ปวดท้อง ท้องอืด
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น มีอาการเปลี่ยนท่าทางบ่อย ปวดศีรษะ ง่วงนอน ตัวสั่น วิงเวียน
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น วิตกกังวล กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
  • ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น มีความดันโลหิตต่ำ
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีเหงื่อหลั่งออกมาก
  • ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น ฮอร์โมนCortisolในเลือดลดลง แต่ Prolactin ในเลือดเพิ่มขึ้น
  • ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น เกิดทางเดินปัสสาวะอักเสบ/โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ บ่อย
  • ผลต่อตา: เช่น ตาพร่า
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น หูอักเสบ คออักเสบ หรือเกิดภาวะติดเชื้อต่างๆได้ง่าย

มีข้อควรระวังการใช้เบรกซ์พิพราโซลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาเบรกซ์พิพราโซล เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามปรับเปลี่ยนขนาดรับประทานเอง
  • ห้ามหยุดรับประทานยานี้อย่างกะทันหัน
  • ระหว่างใช้ยานี้ต้องเฝ้าระวัง ภาวะ/โรคเบาหวาน น้ำหนักตัวเพิ่ม/โรคอ้วน ระดับไขมันในเลือดสูง รวมถึงความดันโลหิตต่ำ
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจร่างกายและตรวจติดตามอาการทางจิตประสาทตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาเบรกซ์พิพราโซลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพร ต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

เบรกซ์พิพราโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาเบรกซ์พิพราโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • ห้ามใช้ยาเบรกซ์พิพราโซลร่วมกับยา Fentanyl ด้วยจะทำให้มีอาการกดระบบประสาท กดระบบการหายใจ จนถึงเข้าขั้นโคม่า และอาจเสียชีวิตในที่สุด
  • ห้ามใช้ยาเบรกซ์พิพราโซลร่วมกับยา Clozapine เพราะจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ ตลอดจนถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นตามมา
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเบรกซ์พิพราโซลร่วมกับยา Ketoconazole, Bupropion, Verapamil, และ Fluoxetine, ด้วยจะทำให้ระดับยาเบรกซ์พิพราโซลในกระแสเลือด มีปริมาณเพิ่มขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงสูงขึ้นจากยาเบรกซ์พิพราโซลตามมา
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเบรกซ์พิพราโซลร่วมกับยาChlorpheniramine เพราะจะทำให้ มีอาการ วิงเวียน ง่วงนอน มากยิ่งขึ้น

ควรเก็บรักษาเบรกซ์พิพราโซลอย่างไร?

ควรเก็บยาเบรกซ์พิพราโซลตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์

เบรกซ์พิพราโซลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเบรกซ์พิพราโซล มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
REXULTI (เรกซัลที)Otsuka Pharmaceutical Co

บรรณานุกรม

  1. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2015/205422s000lbl.pdf[2017,Sept2]
  2. https://www.drugs.com/mtm/brexpiprazole.html[2017,Sept2]
  3. https://www.drugs.com/ppa/brexpiprazole.html[2017,Sept2]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/brexpiprazole-index.html?filter=3&generic_only=[2017,Sept2]