เทอร์บินาฟีน (Terbinafine)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ: คือยาอะไร?

เทอร์บินาฟีน (Terbinafine) คือ ยาต้านเชื้อรา ทางคลินิกนำมารักษาโรคเชื้อราตามร่างกาย เช่น หนังศีรษะ  ผิวหนังตามร่างกาย ที่ขาหนีบ เท้า นิ้ว เล็บมือ เล็บเท้า ผู้ที่จะสั่งจ่ายยานี้ควรต้องเป็นแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น, โดยรูปแบบยาแผนปัจจุบันของยาเทอร์บินาฟีนจะเป็นยาชนิดรับประทาน และยาทาเฉพาะที่  

เมื่อรับประทานยาเทอร์บินาฟีน  ตัวยาสามารถถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร และกระจายตัวเข้าสู่กระแสเลือดได้ประมาณ 40%  แต่จะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนได้มากกว่า 99%, ตับจะเป็นอวัยวะที่คอยทำลายโครงสร้างของยานี้อย่างต่อเนื่อง, ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 7 - 36 ชั่วโมงในการกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือด 50% โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ

ด้วยมีข้อพึงระวังก่อนการใช้ยาเทอร์บินาฟีนบางประการที่แพทย์มักจะนำมาพิจารณาประกอบก่อนการจ่ายยานี้ เช่น

  • ผู้ป่วยมีอาการและการทำงานของตับเป็นปกติหรือไม่ โดยสังเกตอาการที่เกิดกับผู้ป่วย เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะสีคล้ำ ปวดท้อง อุจจาระสีซีด ตาเหลือง ตัวเหลือง
  • เป็นผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายต่ำ หรือป่วยเป็นโรคลูปัส-โรคเอสแอลอี  หรือไม่
  • ผู้ป่วยแพ้ยานี้หรือไม่
  • ผู้ป่วยติดสุราหรือไม่ ด้วยแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับยานี้
  • ยานี้สามารถทำให้ปริมาณเม็ดเลือดขาวในร่างกายลดต่ำลง
  • แพทย์มักจะไม่จ่ายยานี้ให้กับผู้ที่มีภาวะติดเชื้อต่างๆอยู่ก่อนแล้ว
  • การใช้ยานี้อาจทำให้เกิดผิวแพ้แสงแดดได้ง่ายขึ้น
  • อาจทำให้อารมณ์และพฤติกรรมผู้ป่วยเปลี่ยนไป
  • รวมถึงความรู้สึกในการรับรสชาติของอาหาร และการดมกลิ่นเปลี่ยนไปจากเดิม
  • นอกจากนี้ ยังมีเรื่องยาอื่นๆที่ผู้ป่วยรับประทานประจำตัว ที่อาจทำปฏิกิริยาระหว่างยากับยาเทอร์บินาฟีนก็ได้
  • ยังมีเรื่องอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) ที่สามารถเกิดขึ้นขณะใช้ยานี้ โดยแพทย์ต้องทำความเข้าใจกับผู้ป่วย อีกทั้งอาการแพ้ยาที่อาจพบได้ในผู้ป่วยบางราย
  • กรณีสตรีตั้งครรภ์กับการใช้ยาเทอร์บินาฟีนชนิดรับประทาน: จากการศึกษาวิจัยโดยใช้ยานี้กับสัตว์ทดลองที่ตั้งท้องพบว่า ตัวยามิได้ทำให้ตัวอ่อนของสัตว์ทดลองพิการหรือผิดปกติแต่ประการใด แต่ยังไม่มีข้อสนับสนุนกับการใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์, ทางคลินิกยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษกรณีที่จะใช้ยานี้กับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว
  • อายุของผู้ป่วยถูกนำมาพิจารณาเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ด้วยเด็กเล็กกับผู้สูงอายุ สภาพร่างกายโดยเฉพาะตับจะมีความแข็งแรงไม่เท่ากับผู้ป่วยที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวไปจนถึงวัยกลางคน

ด้วยข้อควรระวังที่มีมากมายดังกล่าว การเลือกใช้ยาเทอร์บินาฟีนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบยารับ ประทาน หรือยาทาผิวหนังชั้นนอก ควรต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาแต่เพียงผู้เดียว

เทอร์บินาฟีนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

 

ยาเทอร์บินาฟีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • รักษาโรคเชื้อรา/ยีสต์ (Yeast) บริเวณ ผิวหนัง โคนผม หนังศีรษะ เล็บมือ เล็บเท้า

เทอร์บินาฟีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาเทอร์บินาฟีนมีกลไกการออกฤทธิ์โดย ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ของเชื้อราที่มีชื่อว่า ‘Squalene epoxidase’ ซึ่งมีหน้าที่ในกระบวนการสังเคราะห์สารที่มีชื่อว่า ‘Sterol’ ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนสาร ‘Ergosterol’ ติดตามมา ซึ่งสาร Ergosterol เป็นส่วนประกอบสำคัญของผนังเซลล์ในเชื้อรา, ทำให้เชื้อราไม่สามารถสร้างผนังเซลล์ขึ้นมาได้ ส่งผลให้เชื้อราหยุดการเจริญเติบโต และตายลงในที่สุ

เทอร์บินาฟีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเทอร์บินาฟีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย: เช่น         

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 250 มิลลิกรัม/เม็ด
  • ยาครีมทาภายนอก ขนาดความเข้มข้น 1%
  • ยาเจลทาภายนอก ขนาดความเข้มข้น 1%

เทอร์บินาฟีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

การเลือกรูปแบบการใช้ยาเทอร์บินาฟีนเป็นยารับประทานหรือยาทาภายนอก ต้องเป็นไปตามความเห็นของแพทย์ผู้รักษา เช่น กรณีติดเชื้อราเพียงเล็กน้อยที่ผิวหนัง แพทย์อาจเลือกใช้เพียงยาทาภายนอกก็น่าจะเพียงพอ, หากมีการติดเชื้อรารุนแรงเป็นบริเวณกว้างของผิวหนัง หรือเป็นที่เล็บ หรือ หนังศีรษะ การใช้ยาทาอาจไม่เพียงพอที่ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้ทั่วถึง แพทย์ก็สามารถเลือกเป็นตัวยาชนิดรับประทานแทน หรืออาจใช้ร่วมกับยาทา โดยต้องมีการสืบค้นข้อมูลมาประกอบก่อนการสั่งจ่ายตามที่ระบุใน “บทนำ”  ในบทความนี้ขอยกตัวอย่าง เช่น

ก. ยาชนิดรับประทาน: เช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปและมีน้ำหนักมากกว่า 40 กิโลกรัมขึ้นไป : รับประทาน 250 มิลลิกรัม, วันละ1ครั้ง
  • เด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักระหว่าง 20 - 40 กิโลกรัม: รับประทาน 125 มิลลิกรัม,  วันละ1ครั้ง
  • เด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักน้อยกว่า 20 กิโลกรัม : รับประทาน 62.5 มิลลิกรัม, วันละ1ครั้ง
  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึงผลข้างเคียงจากยานี้ การใช้ยานี้ในเด็กกลุ่มวัยนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

* อนึ่ง: สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้ โดยทั้งนี้ระยะเวลาของการรับประทานยานี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีอาการและความรุนแรงของโรคมาประกอบกัน

ข. ยาชนิดทา: เช่น

  • ผู้ใหญ่: ทายาในบริเวณที่มีการติดเชื้อราวันละ 1 - 2 ครั้ง, เป็นเวลา 1 สัปดาห์, หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก): การใช้ยานี้ในเด็ก ต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาเทอร์บินาฟีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลnและเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเทอร์บินาฟีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ใน ภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมใช้ยาเทอร์บินาฟีนควรทำอย่างไร?

หากลืมใช้ยาเทอร์บินาฟีนสามารถใช้ยาเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการใช้ยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิผลของการรักษาควรใช้ยาเทอร์บินาฟีนตรงเวลา

เทอร์บินาฟีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาเทอร์บินาฟีนสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น

ก. ยาชนิดทา: อาจทำให้เกิดอาการ แดง แสบ คัน ในบริเวณที่ทายา

ข. ยาชนิดรับประทาน: เช่น

  • อาจเกิดอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น
    • รู้สึกไม่สบายในท้อง
    • ท้องเสีย
    • ท้องอืด
    • ปวดท้อง
    • คลื่นไส้
    • การรับรู้รสชาติเปลี่ยนไป
  • ตรวจเลือด: อาจพบ
    • การทำงานของตับผิดปกติ
    • มีความผิดปกติต่อระบบเลือดของผู้ป่วย

*อนึ่ง: *อาการของผู้ที่ได้รับยานี้ เกินขนาด จะพบอาการ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง วิงเวียน ผื่นคัน ปัสสาวะบ่อย และปวดหัว, หากพบอาการดังกล่าวควรรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน ขึ้นกับความรุนแรงของอาการ

อาการข้างเคียงบางอย่างของยานี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาอื่นมาบำบัดรักษา ร่างกายจะค่อยๆปรับตัว และทำให้อาการข้างเคียงเหล่านั้นทุเลาไปเอง *แต่หากเกิดอาการข้างเคียงที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อแพทย์พิจารณาเปลี่ยนยาหรือปรับแนวทางการรักษา

มีข้อควรระวังการใช้เทอร์บินาฟีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาเทอร์บินาฟีน: เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามกลืนยานี้ที่เป็นชนิดทาโดยเด็ดขาด และต้องระวังหลีกเลี่ยงมิให้ยานี้ทาเข้าตา
  • ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก รวมถึงคนชรา โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพของยาชำรุดและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
  • ห้ามปรับขนาดการใช้ยาด้วยตนเอง
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับ-ไตผิดปกติ
  • *หากใช้ยานี้ไปแล้วเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือเกิน 1 เดือนแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรืออาการแย่ลง ควรรีบกลับมาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาลอีกครั้ง ไม่ต้องรอถึงวันแพทย์นัด เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • ระหว่างใช้ยานี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง หรือแม้แต่การสัมผัสกับแสงจากหลอดไฟนานๆ ด้วยอาจทำให้ผิวไหม้ได้
  • *กรณีที่ใช้ยานี้แล้ว เกิดอาการแพ้ยา เช่น ตัวบวม ใบหน้า-คอ-ลิ้น-ปากบวม อึดอัด/หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก มีลมพิษหรือผื่นคันขึ้นเต็มตัว ให้หยุดการใช้ยานี้ทันที แล้วรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วทันที/ฉุกเฉิน
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเทอร์บินาฟีนด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด   อาหารเสริม  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

เทอร์บินาฟีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

สำหรับปฏิกิริยาระหว่างยาเทอร์บินาฟีนกับยาอื่น ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะยาชนิดรับประทานเท่านั้น(ยาเทอร์บินาฟีนในรูปแบบยาทาภายนอกยังไม่มีรายงานพบปฏิกิริยาระหว่างยากับยารับประทานใดๆ) โดยตัวอย่าง เช่น

  • การใช้ยาเทอร์บินาฟีน ร่วมกับยารักษามะเร็งเต้านม เช่นยา Tamoxifen จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการรักษามะเร็งของยาTamoxifenด้อยลงไป หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเทอร์บินาฟีน ร่วมกับยา Leflunomide,  Mipomersen  ด้วยจะทำให้เกิดปัญหาการทำงานของตับ และอาจพบอาการไข้ หนาวสั่น ปวดท้อง บวมตามตัว ผื่นคัน เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะมีสีเข้ม ตัวเหลืองและตาเหลือง   
  • การใช้ยาเทอร์บินาฟีน ร่วมกับยา Vortioxetine (ยาจิตเวช) อาจส่งผลต่อระดับยา Vortioxetine ในเลือดจนก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่เรียกว่า ‘กลุ่มอาการเซโรโทนิน’ โดย จะพบอาการ ประสาทหลอน รู้สึกสับสน มีอาการของลมชัก หัวใจเต้นเร็ว มีไข้ เหงื่อออกมาก ตาพร่า กล้ามเนื้อหดเกร็งตัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป

การใช้ยาเทอร์บินาฟีน ร่วมกับยา Eliglustat ที่ใช้รักษาอาการโรคทางพันธุกรรมอย่าง ‘โรคโกเชร์’ อาจนำมาซึ่งอาการข้างเคียงของยา Eliglustat ต่อหัวใจของผู้ป่วยโดยทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ   หัวใจหยุดเต้น โดยจะมีอาการนำเป็นสัญญาณเตือน เช่น เริ่มจากวิงเวียน เป็นลม หายใจขัด ชีพจรอ่อน เพื่อป้องกันอาการข้างเคียงที่รุนแรงดังกล่าวข้างต้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษาเทอร์บินาฟีนอย่างไร?

สามารถเก็บยาเทอร์บินาฟีนทั้งชนิดรับประทานและชนิดทาภายนอก: เช่น

  • เก็บยาภายใต้อุณหภูมิห้องที่เย็น
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

เทอร์บินาฟีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเทอร์บินาฟีน  มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
EU 2000 (อียู 2000) Union Drug
Lamisil (ลามิซิล) Novartis

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Terbinafine  [2022, Dec31]
  2. https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/terbinafine-oral-route/description/drg-20066265                          [2022, Dec31]
  3. https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/terbinafine-topical-route/description/drg-20066273   [2022, Dec31]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/hydroxypropyl-chitosan-terbinafine-topical.html         [2022, Dec31]
  5. https://www.mims.com/India/drug/info/terbinafine/  [2022, Dec31]
  6. https://www.drugs.com/pro/lamisil.html   [2022, Dec31]
  7. https://www.mims.com/Thailand/drug/info/EU%202000/?type=brief  [2022, Dec31]
  8. https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Lamisil/?type=brief   [2022, Dec31]
  9. https://www.mims.com/thailand/drug/info/lamisil  [2022, Dec31]