เด็กแอลดี ลูกผีหรือลูกคน (ตอนที่ 2)

ถ้าคุณสงสัยว่า ลูกคุณมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning disabilities : LD) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือพิเศษ จงอย่าล่าช้าในการเลือกหาผู้ช่วยเหลือ [ซึ่งอาจเป็นกุมารแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องพัฒนาการเด็ก (Child development) หรือครูที่ได้รับการฝึกฝนอบรม จนมีความชำนาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ] หากคุณดำเนินการยิ่งเร็ว ยิ่งเพิ่มโอกาสของลูกที่จะพัฒนาไปสู่ศักยภาพสูงสุดของเขา

อาการของความบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือโรคแอลดี จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุ และมักพบในโรงเรียนระดับประถมศึกษาเมื่อเด็กมีปัญหาในการอ่าน การเขียน หรือการคำนวณ อาการโรคแอลดี ที่เกิดโดยทั่วไปมีดังนี้

  • มีปัญหาในการอ่าน เช่น อ่านได้ช้าและต้องใช้ความพยายามในการอ่านอย่างมาก
  • มีปัญหาในการเขียน
  • ผลการเรียนจากโรงเรียนไม่ดีโดยไม่มีเหตุผล
  • พูดได้ช้ากว่าปกติและเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ได้ช้า
  • มีปัญหาในเรื่องการเรียนตัวอักษร ตัวเลข สี รูปทรง การสะกดและการเขียนชื่อของเด็ก
  • มีการอ่านหรือสะกดผิดอยู่เสมอๆ
  • อ่านตัวเลขผิดหรือสับสนกับตัวเลข
  • มีปัญหาในการเรียงลำดับข้อมูลหรือเหตุการณ์ให้ถูกต้อง
  • ไม่เข้าใจมรรยาทในการพูดกับผู้อื่น เช่น เด็กอาจจะยืนใกล้ชิดกับคู่สนทนามากเกินไป

การสังเกตว่าเด็กเป็นโรคแอลดีหรือไม่ อาจได้จากการถามตัวเด็กว่ามีปัญหาอะไรที่โรงเรียนหรือไม่ หรือถามจากคุณครู การทำบททดสอบเพียงแบบเดียวอาจไม่สามารถใช้วินิฉัยโรคแอลดีได้ ต้องใช้การทดสอบหลายอย่างซึ่งอาจจะรวมถึง การอ่าน การเขียน และการทดสอบเกี่ยวกับบุคลิกภาพของเด็ก ลักษณะการเรียนรู้ ภาษา ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem-solving skills) และไอคิว (IQ = Intelligence quotient)

การรักษาโรคแอลดีอาจรักษาโดยใช้เครื่องมือทางการศึกษาช่วย แต่ไม่นิยมรักษาด้วยการให้ยา วิธีการที่พ่อแม่สามารถช่วยลูกที่เป็นโรคแอลดีได้

  • เรียนรู้โรคแอลดีของลูก เพื่อที่จะสามารถเข้าใจและช่วยเหลือลูกได้ หรืออาจพูดคุยกับพ่อแม่คนอื่นที่มีลูกเป็นโรคแอลดี
  • ค้นหาวิธีการเรียน (Learning style) ที่ดีที่สุดของลูก เช่น ถ้าลูกเข้าใจด้วยการฟังได้มากกว่า ก็หาวิธีการเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ ด้วยการฟังเสียงอ่าน (Audio book) หรือ ดูดีวีดี (DVD : Digital videodisc)
  • หาครูพิเศษให้ลูก หรือ เรียนรู้ที่จะสอนลูกเอง
  • สนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรมอื่นๆ ที่หลากหลาย
  • ให้คำชมแก่ลูกเมื่อลูกทำอะไรได้ดี ทั้งที่โรงเรียนหรือกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ
  • หางานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกทำ โดยใช้คำสั่งง่ายๆ และซอยงานย่อยออกเป็นงานชิ้นเล็กๆ ทีละขั้น เมื่อทำงานสำเร็จทีละชิ้นจะทำให้ลูกรู้สึกมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
  • อาจปรึกษากับจิตแพทย์เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องความคับข้องใจ (Frustrations) ของพ่อแม่และลูก
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครูของลูก คอยปรึกษากันเรื่องพัฒนาการของลูก

แหล่งข้อมูล:

  1. Learning Disabilities - Topic Overview. http://children.webmd.com/tc/learning-disabilities-topic-overview [2012, July 23].
  2. Learning Disabilities in Children. http://www.helpguide.org/mental/learning_disabilities.htm [2012, July 23].