เชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม
- 13 เมษายน 2556
- Tweet
กล่าวโดยทั่วไปมีปฏิกิริยา 4 แบบ ของเชื้อจุลชีพที่ก่อให้เกิดการดื้อต่อยาฆ่าเชื้อดังนี้
- เชื้อจุลชีพทำให้ยาหมดฤทธิ์และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตัวเอง เช่น การทำให้เอนไซม์ (Enzyme) ไม่ออกฤทธิ์ของยาเพนนิซิลิน (Penicillin) ในเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาเพนนิซิลิน
- เชื้อจุลชีพเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย เช่น การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งที่จับ ไปยังเซลล์เป้าหมายของเพนนิซิลิน ในเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาเพนนิซิลิน อื่นๆ
- เชื้อจุลชีพเปลี่ยนแปลงกระบวนการเผาผลาญอาหาร เช่นแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamide) ไม่ต้องการตัวยาสำคัญ (Precursor) เพื่อการสังเคราะห์กรดเชิงซ้อน (Folic acid and nucleic acid)
- เชื้อจุลชีพลดการสะสมยาโดยลดการซึมผ่าน (Permeability) ของยา และ หรือเพิ่มการขับออก (Efflux)) ของยาผ่านผิวหนังเซลล์
ในการรักษานั้น เราสามารถลดโอกาสการดื้อยาให้น้อยลง โดยการใช้ยาหลายตัวในเวลาเดียวัน เนื่องจากการกลายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียแต่ละชนิดไม่ขึ้นต่อกัน และต้านทานยาได้ 1 ตัวเท่านั้นในระยะเวลาหนึ่ง ถ้าแบคทีเรียแต่ละชนิดยังคงถูกฆ่าโดยยาอื่นๆ แล้ว การกลายพันธุ์ก็ไม่สามารถคงอยู่ต่อไป
การใช้วิธีการนี้ ประสบความสำเร็จในยารักษาวัณโรค อย่างไรก็ตาม การรักษายังเป็นปัญหาในกรณีการดื้อยาข้ามสายพันธุ์ (Cross resistance) ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์ ที่ส่งผลให้ดื้อยา 2 ชนิดหรือมากกว่า สำหรับการดื้อยาปฏิชีวนะ (Antibiotic resistance) ซึ่งเป็นปัญหาแพร่กระจายไปทั่วในวันนี้ เราสามารถทำลายแบคทีเรียที่ดื้อยาได้โดยใช้ไวรัสในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Bacteriophage) เรียกชื่อว่า “Phage therapy”
สำหรับบุคลากรทางการแพทย์นั้น การป้องกันทำได้โดยทุกคนต้องล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือใช้แอลกอฮอล์ลูบมือ ก่อนและหลังให้การดูแลผู้ป่วย มาตรการเสริมได้แก่ การสวมเครื่องป้องกันก่อนเข้าไปดูแลผู้ป่วย โดยสวมถุงมือและเสื้อคลุม ตลอดจนการทำความสะอาดห้องพักและอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยความระมัดระวัง
สำหรับผู้ป่วยนั้นสามารถป้องกันตนเอง โดยล้างมือบ่อยๆ รวมถึงญาติหรือผู้ที่เข้าเยี่ยม ต้องล้างมือก่อนและหลังออกจากห้องเยี่ยมไข้ที่หอผู้ป่วยทุกครั้งดัวย ส่วนการให้การรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อ ต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง แล้วให้การรักษาที่รวดเร็ว เพราะถ้ามีการใช้ยาปฏิชีวนะที่ยาวนาน ก็จะมีส่วนกระตุ้นให้เชื้อโรคนั้นดื้อยาได้อีกเช่นกัน
เมื่อผู้ป่วยกลับไปอยู่บ้าน ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด อาทิรับประทานยาปฏิชีวนะจนครบตามแพทย์สั่ง ไม่มีการหยุดยาก่อนกำหนด และไม่ซื้อยามารับประทานเอง การเตรียม ปรุง และรับประทานอาหาร ต้องระมัดระวังความสะอาด รวมทั้งหลังเข้าห้องน้ำ หลังสั่งน้ำมูก ไอหรือจาม ตลอดจนหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนูหรือใบมีดโกนร่วมกัน นอกจากนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติการดื้อยา เพื่อจะได้รับการดูแลทั้งการรักษาและการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา อย่างเหมาะสม
แหล่งข้อมูล
- ทำอย่างไร! เมื่อเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล - http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000033764&Keyword=%ca%d2%b8%d2%c3%b3%ca%d8%a2 [2013, April 11]
- Drug resistance. http://en.wikipedia.org/wiki/Drug_resistance [2013, April 11]