เครียดจนปวดหรือปวดจนเครียด (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 14 มกราคม 2560
- Tweet
สำหรับทางเลือกอื่นที่อาจช่วยในการลดอาการปวดศีรษะจากความเครียดได้ เช่น
- การฝังเข็ม
- การนวดผ่อนคลาย
- การหายใจลึก
- การทำไบโอฟีดแบ็ค (Biofeedback) ซึ่งเป็นการรักษาแบบหนึ่ง โดยให้คนไข้สังเกตปฎิกิริยาของร่างกาย เช่น ชีพจร การหายใจ ความตึง อุณหภูมิ ของร่างกายในภาวะต่างๆ กัน เพื่อให้คนไข้ทราบว่า การทำเช่นไรจะทำให้เกิดภาวะผ่อนคลายเต็มที่ หลังจากนั้น คนไข้จะสามารถฝึกตัวเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายได้
- การจัดการความเครียด ด้วยการวางแผนล่วงหน้าและการผ่อนคลาย
- การประคบร้อนหรือเย็น
- การจัดท่าทางให้ดีเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เช่น การยืน การนั่ง
ส่วนการป้องกันมีหลายวิธี เช่น
- การฝึกไบโอฟีดแบ็ค (Biofeedback training)
- การบําบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavioral therapy = CBT)
- เทคนิคผ่อนคลายอื่นๆ เช่น การหายใจลึก โยคะ การทำสมาธิ
นอกจากนื้การปรับวิถีชีวิตที่ดีอาจช่วยป้องกันได้ เช่น
- นอนพอสมควรไม่มากเกินไป
- เลิกสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ตามเวลา
- ดื่มน้ำให้มาก
- จำกัดการดื่มแอลกฮอล์ คาเฟอีน และน้ำตาล
อนึ่ง โรคปวดศีรษะจากความเครียดแตกต่างจากไมเกรน โดยโรคปวดศีรษะจากความเครียดจะ
- ไม่ค่อยรุนแรง
- ไม่มีอาการปวดตุบ ๆ (Throbbing) แต่ปวดเหมือนถูกรัด (Band-like)
- ปวดทั้ง 2 ข้าง
- ไม่เกี่ยวข้องกับความไวต้องแสงและเสียง
- ไม่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน
บรรณานุกรม
1. Tension headache. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tension-headache/home/ovc-20211413 [2017, January 13].
2. Tension Headaches. http://my.clevelandclinic.org/health/articles/tension-type-headaches [2017, January 13].