เข้าครัวกับโภชนากร (โรงพยาบาล) ตอน: Choice of Nutrition Support
- โดย อาจารย์พรพิศ เรืองขจร
- 8 พฤษภาคม 2558
- Tweet
การให้โภชนาการแก่ผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยพลังงานและสารอาหารเพียงพอ เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย สามารถนำไปใช้ในการดำรงชีวิต การทำงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การให้โภชนบำบัดอาจให้ได้ทั้งทางปากตากปกติ หรือให้ทางเดินอาหารโดยอาศัยสาย(tube) ให้อาหารชนิดต่างๆ หรือให้ทางหลอดเลือดดำ
การประเมินผู้ป่วยถึงความสามารถในการรับประทานอาหารเพียงพอหรือไม่
- รับประทานอาหารทางปาก(oral) เพียงพอตามที่ต้องการ > 75 % ของพลังงานที่ต้องการและมีการติดตามเป็นระยะ
-
กรณีรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ให้มีการรับประทานอาหารเสริมเพิ่ม(supplement)
- รับประทานอาหารทางปาก + อาหารเสริม(supplement)ได้ > 75 %ตามความต้องการพลังงาน และให้การติดตามเป็นระยะ
- รับประทานอาหารทางปาก + อาหารเสริม(supplement)ได้ < 75 %ตามความต้องการพลังงาน ต้องให้อาหารทางสายให้อาหารตามพยาธิสภาพผู้ป่วย
ข้อบ่งชี้ในการให้อาหารทางสายให้อาหาร
- เมื่อทางเดินอาหารไม่มีปัญหา สามารถใช้งานได้
- เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากเองได้ หรือรับประทานอาหารได้เองไม่เพียงพอ
ข้อห้ามในการให้อาหารทางสายให้อาหาร
- มีภาวะลำไส้อุดตั้นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด
- อาเจียน ท้องเสียรุนแรงที่ไม่สามารถให้การรักษาด้วยการให้ยา
- ภาวะลำไส้สั้น (short bowel syndrome )ลำไส้เล็กน้อยกว่า 100 เซนติเมตร
- ลำไส้ไม่ทำงาน (paralytic ileus)
- มีเลือดออกทางเดินอาหาร (severe GI bleeding)
- severe GI malabsorption
- Inability to gain access to GI tract
- คาดว่าผู้ป่วยจะรับประทานอาหารได้เพียงพอในเวลา < 5 –7 วัน ในผู้ป่วยที่ขาดอาหาร หรือ ในเวลา < 7 - 9 วันในผุ้ป่วยที่ไม่ขาดอาหาร
- ผู้ป่วยระยะสุดท้าย (terminal case , Limited expected lifespan) โดยสรุปการให้อาหารทางเดินอาหารนั้นดีทีสุด แต่ถ้าได้รับอาหารไม่เพียงพอ ควรให้อาหารทางสายให้อาหาร เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถคงสภาวะโภชนาการ หรือลดภาวะทุพโภชนาการ.
บรรณานุกรม
- ปริย พรรณเชษฐ์. Choice of Nutrition Support . Nutrition Update สมาคมหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย ; 2556.โรงพิมพ์พราวเพรส(2002)จำกัด .กรุงเทพฯ.