เข้าครัวกับโภชนากร (โรงพยาบาล) :ตอน อาหารกับโรคเกาต์ (GOUT)
- โดย อาจารย์พรพิศ เรืองขจร
- 7 ธันวาคม 2556
- Tweet
อาหารนั้นไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดโรคเกาต์เพียงแต่มีส่วนกระตุ้นให้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเกาต์หรือเป็นโรคเกาต์มีข้ออักเสบได้ง่ายขึ้น มีการศึกษาที่พบว่าการงดรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีน (purine) จะทำให้ระดับกรดยูริคเลือดลดลงเพียง 1 มก./ดล. เท่านั้น
หลักปฏิบัติ
- ถ้ามีภาวะน้ำหนักตัวเกินควรลดน้ำหนัก และการลดน้ำหนักควรเป็นไปอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไปไม่ควรเกินครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ เพราะการลดน้ำหนักมากๆในระยะเวลาสั้นอาจมีผลทำให้เกิดภาวะมีสารคีโตน (ketone) ในเลือดสูงส่งผลให้การขับกรดยูริกออกจากร่างกายลดลงและที่สำคัญไม่ควรลดน้ำหนักโดยการอดอาหารอย่างเด็ดขาดเพราะจะทำให้มีการสลายตัวของเซลล์ในร่างกายรวดเร็วผิดปกติทำให้ระดับกรดยูริคในเลือดสูงมากขึ้นและเกิดข้ออักเสบกำเริบได้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากทำให้มีการสร้างกรดยูริคเพิ่มขึ้นและยังลดการขับกรดยูริคจากร่างกาย
- พยายามดื่มน้ำให้มากเพราะน้ำจะช่วยขับกรดยูริคออกจากร่างกาย และลดความเข้มข้นของกรดยูริคในเลือดทำให้ลดโอกาสก่อตัวของเกล็ดผลึกโมโนโซเดียมยูเรต (mono sodium urate) ที่ก่อให้เกิดโรคเกาต์ โดยปกติในผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วหรือ 2 ลิตรแต่ในกรณีเกิดอาการโรคเก๊าท์อาจเพิ่มเป็น 3- 4 ลิตร ยกเว้น ผู้ป่วยโรคไตหรือโรคหัวใจที่แพทย์แนะนำไม่ให้ดื่มน้ำมากเกินไป
- ควรรับประทานผักให้ได้ทุกมื้อเพราะผักส่วนใหญ่มีคุณสมบัติเป็นด่างช่วยให้เลือดมีความเป็นด่างที่เหมาะสม ปกติเลือดของคนเรามีค่าความเป็นกรดด่าง (pH)ประมาณ 7.4 ซึ่งมีความเป็นด่างอ่อนๆ จะช่วยให้ละลายกรดยูริคได้มากขึ้น โดยเฉพาะผักชนิดใบเขียว รับประทานอย่างน้อย 4-5 ทัพพี
- การรับประทานข้าว(แป้ง) ให้เพียงพอ โดยทั่วไปวันละ 8-10 ทัพพีเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอในการทำกิจกรรมต่างๆโดยไม่ต้องเผาผลาญโปรตีนที่มีอยู่ในกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นพลังงานเพราะการเผาผลาญโปรตีนลักษณะนี้จะทำให้มีการสลายกรดยูริคออกมาในกระแสเลือดมากขึ้น
- เลือกรับประทานเนื้อสัตว์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของร่ายกาย ไม่มากจนเกินไป ในผู้ใหญ่อายุมากกว่า35 ปี ควรรับประทานเนื้อสัตว์ ไม่เกิน 2 – 2 ½ ขีด/วัน และควรเลือกที่มีไขมันต่ำไม่ติดมัน ติดหนัง
- หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารโดยใช้ไขมันสูง อาทิ แกงกะทิ ผักผัดใส่น้ำมันพืชหรือน้ำมันหอยจำนวนมาก
- พยายามลดความเครียด ซึ่งทำให้เกิดการใช้พลังงานสูงขึ้นการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น (increased turnover of ATP) ทำให้เกิดการสร้างกรดยูริคเพิ่มขึ้น
หมายเหตุ : กรณีตวงในปริมาณ 1 ช้อนชา สามารถใช้ช้อนกาแฟทดแทนได้ดังภาพ
น้อย 0 – 50 มิลลิกรัม | ปานกลาง 50- 100 | มาก: คือมากกว่า 100 มิลลิกรัม |
---|---|---|
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม - ไข่ - ธัญพืชต่างๆ - ผักต่างๆ - ผลไม้ต่างๆ - น้ำตาล - ไขมัน - ผลไม้เปลือกแข็งทุกชนิด - วุ้นผง เยลลี่ |
- หมูเนื้อแดง - ปลากะพงแดง - เนื้อวัว ปลาหมึก เนื้อปู - สะตอ ผักโขม หน่อไม้ - ข้าวโอ๊ต - เมล็ดถั่วลันเตา - ถั่วลิสง - ดอกกระหล่ำ - ใบขี้เหล็ก |
- หัวใจไก่ ตับไก่ กึ๋นไก่ ปีกไก่ เอ็นไก่ - ซี่โครงหมู ตับหมู ไส้อ่อน เซ่งจี้ - มันสมองวัว - เป็ด ห่าน ไข่ปลา - ปลาดุก ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ - ปลาซาร์ดีน ,ปลาทูน่า,ปลาแซลมอน - กุ้งชีแฮ้ หอย - น้ำสกัดเนื้อ น้ำต้มกระดูกน้ำซุปต่างๆ - ซุปก้อน ยีสต์ เบียร์ กะปิ - เห็ด กระถิน ชะอม - ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลืองถั่วดำ |
แหล่งข้อมูล:
- http://www.acumedico.com/purine.htm [2013, April 1].