เข้าครัวกับโภชนากร (โรงพยาบาล) :ตอน กินต้านแก่ (ตอนที่ 1)
- โดย อาจารย์พรพิศ เรืองขจร
- 14 กันยายน 2556
- Tweet
ทุกสิ้นปีทำให้รู้สึกว่าคนเราจะแก่ขึ้นไปอีกปีหนึ่ง ความแก่ของคนเรานั้นผู้เขียนไม่ได้หมายถึงจะหน้าตาที่ดูแก่ขึ้น เหี่ยวย่นลงไปแต่เป็นความเสื่อมของร่างกายโดยเฉพาะความเสื่อมในระดับเซลล์ ริ้วรอยบนผิวหนังที่เริ่มปรากฏ และความเสี่ยงของโรคที่มากับวัย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจเบาหวานความดันโลหิตสูงกระดูกพรุนหรือมะเร็ง คือสัญญาณความเสื่อมของวัยที่เรียงรายกันเข้ามา แต่เมื่อไม่มีใครที่หยุดยั้งความแก่ได้ สิ่งที่น่าคิดมากกว่าคือ จะทำอย่างไรจึงแก่อย่างสง่างาม ซึ่งหมายถึงการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ โดยที่ตัวเลขค้านกับความจริง จนแม้หนุ่มสาวยังคงต้องอาย
มีงานวิจัยมากมายชี้ให้เห็นว่า การกินอาหารที่มีคุณภาพดีต่อสุขภาพ ไม่เพียงแต่ทำให้อายุเป็นเพียงตัวเลข แต่ยังช่วยป้องกันโรคที่มากับวัยได้อีก
ทฤษฎีว่าด้วยความเสื่อมของร่างกาย(The Wear and Tear Theory of Aging) เซลล์ในร่างกายจะถูกทำลายเมื่อถูกใช้งานหนักเกินไป และเมื่อร่างกายเกิดความเครียดก็จะซ้ำเติมเร่งให้เกิดความเสื่อมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอวัยวะสำคัญ เช่นต่อมต่างๆ และโครงสร้างของเซลล์ ความเครียดเกิดจาก การพักผ่อนไม่พอ ความวิตกกังวล การกินอาหารผิดๆ ไม่เหมาะสม กินน้ำตาล กรด ไขมัน คาแฟอีน แอลกอฮอล์ และสารเคมีอื่นๆ
สารบางชนิดในอาหารอาจมีผลทำให้แก่เร็ว เนื่องจากมีผลก่อการอักเสบที่ระดับเซลล์ อาหารที่เราบริโภคทุกวันนี้แบ่งออกตามผลการเกิดโรคได้เป็น 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มที่ทำให้เกิดการอักเสบ(pro-inflammatory) เป็นกลุ่มที่เร่งโรคเร่งแก่ เช่น ไขมันชนิดไม่ดี ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว(ไขมันสัตว์) ไขมันทรานส์ (เป็นไขมันแปรรูปจากน้ำมันพืชที่นำมาเปลี่ยนเป็นเนยเทียม เนยขาว ใช้ทำอาหารประเภททอดกรอบและ อบกรอบ
- กลุ่มที่เป็นกลาง ไม่ทำให้เกิดผลร้ายต่อร่างกาย(neutral) เช่นข้าวซ้อมมือ ข้าวโพด ถั่ว งา รำข้าว ฯลฯ
- กลุ่มต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันโรค ชะลอความเสื่อมและความแก่ เช่น น้ำมันปลา สารต้านอนุมูลอิสระหรือสารแอนตี้ออกซิแดนต์และสารพฤษเคมี การอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกายนอกจากจะเร่งแก่ ยังเร่งให้เกิดโรคเรื้อรังทำให้ต้องทนทุกข์อยู่กับโรคไปตลอดชีวิต เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน สมองเสื่อม กระดูกพรุนและมะเร็ง อาหารที่เลือกกินจึงมีความสำคัญต่อวัยของคนเรา
หัวใจสำคัญในการชะลอความชรา
ปัจจุบันนักวิจัยพบว่าเราสามารถชะลอวัยได้ด้วยการปรับเปลี่ยนและสร้างสมดุลภายในร่างกาย โดยเน้นไปที่ระดับฮอร์โมน สารอาหารวิตามิน แร่ธาตุ ไขมัน โปรตีน แม้ไม่สามารถหยุดเวลาได้ แต่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการทำงานในร่างกายที่เราสามารถควบคุมได้มี 5 ประการคืออาหารที่เลือกรับประทานประจำบ่อยๆ
ความเครียดที่สลัดให้หลุดได้
การออกกำลังกายที่เป็นกิจวัตรเสมือนเสพติด
ลด เลี่ยงการนำสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
การรู้จักปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย
ทั้งหมดนี้ถูกนำมาสร้างเป็นโปรแกรมต้านความแก่ ซึ่งไม่ว่าคุณจะมีกรรมพันธุ์อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกกินอาหารที่มีองค์ประกอบที่ช่วยควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้แก่ก่อนวัย จะช่วยให้คุณอายุยืนขึ้น สุขภาพดีขึ้น และหากคุณพยายามปรับปรุงไลฟ์สไตล์(life style) ในการส่งเสริมสุขภาพ ใครๆจะทักคุณเสมอว่าคุณดูอ่อนว่าวัย
ปัจจัยเร่งแก่ | โปรแกรมต้านแก่ | วิธีการ |
---|---|---|
ความเครียด | แนวทางต้านเครียด สารอาหารที่ช่วยรับมือกับความเครียด | มีความคิดทางบวก อย่ายึดติดมากเกินไป ฝึกสมาธิ ออกกำลังกาย สารอาหารต้านเครียด เช่นแอนติออกซิแดนต์ที่มีมากในผักผลไม้ คนที่มีทัศนคติที่ดีจึงมักแก่ยากและตายช้า |
อาหารเร่งแก่ | สร้างสมดุลสารอาหาร | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและเสริมสารอาหาร เปลี่ยนความคิด ประเภทอาหารที่อร่อยปาก แต่ลำบากกาย |
ขาดการออกกำลังกาย | เรียนรู้การออกกำลังกายที่ถูกต้อง | ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทำอย่างต่อเนื่อง20-30นาทีเป็นอย่างน้อยต่อวันให้เป็นกิจวัตร |
สารพิษและมลพิษ | อาหารขจัดพิษ | เรียนรู้วิธีการหลีกเลี่ยงสารพิษ เลือกอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ |
ฮอร์โมนพร่อง | เสริมสร้างสมดุลของฮอร์โมน | ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เสริมสารอาหารที่พร่องให้ถูกเวลาอย่างเพียงพอ |
แหล่งข้อมูล:
- ศัลยา คงสมบูรณ์เวช.อาหารต้านแก่ .อาหารต้านวัยต้านโรค:พิมพลักษณ์ อมรินทร์สุขภาพ; กรุงเทพฯ .2552