เข้าครัวกับโภชนากร (โรงพยาบาล) : ตอน กินแกงกะทิอย่างไรให้ได้สุขภาพและคงความอร่อย

ถ้าเราชอบแกงกะทิก็ต้องมีมะพร้าวขูด สำหรับคั้นให้ได้กะทิข้นๆเพื่อความหอม หวาน มัน ของรสชาติอาหารไทยในชีวิตประจำวัน เช่น แกงเผ็ดเป็ดย่าง พะแนง เต้าเจี้ยวหลนหรือแม้แต่อาหารประเภทยำใช้หัวกะทิข้นๆเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย โดยเฉพาะ แกงเขียวหวานไก่ใส่มะเขือพวง ได้รับการจัดอันดับ เป็นเมนูยอดนิยม จากผลการสำรวจของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

แล้วจะกินแกงกะทิ อย่างไรให้ได้สุขภาพพร้อมความอร่อย มีเปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการระหว่างการใช้กะทิและน้ำมันพืชในการปรุงอาหารดังนี้ หัวกะทิ 1 ช้อนโต๊ะ เทียบเท่า

= น้ำมันชนิดต่างๆ 1 ช้อนชา

= นมข้นจืดระเหย 3 ช้อนโต๊ะ

ตามแนวทางการบริโภคอาหารคนไทยเรา กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้กินน้ำมันหรือไขมัน เพียง 6 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้กะทิ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ สำหรับแกงกะทิ 1 ถ้วยต่อคน

อาหารไทยแต่ละมื้อก็จะประกอบด้วยกับข้าว 2-3 อย่างถ้าต้องกินแกงกะทิ ทุกวันโอกาสที่เราจะได้ปริมาณไขมันเกินความต้องการในแต่ละวันจะสูง

ปัจจุบันมีกะทิสำเร็จรูป โดยไม่ต้องคั้น มีทั้งแบบถุง กล่อง กระป๋อง ผ่านการฆ่าเชื้อ จุดเด่น เป็นกะทิธัญพืช เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ปรุงแต่งอาหารแทนกะทิจริงๆ แต่ยังคงรสชาติความเป็นกะทิและดีต่อสุขภาพ กะทิธัญพืชทำจากน้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน และโปรตีนถั่วเหลือง ไม่มีน้ำตาล ผ่านขบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สะอาด ที่สำคัญไม่มีโคเลสเตอรอล ไขมันอิ่มตัวต่ำกว่ากะทิจากมะพร้าวถึง 3 เท่า โดยมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว : กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว : กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง เป็น 1:1:1 ซึ่งสามารถช่วยควบคุมและลดโคเลสเตอรอลได้ และการใช้น้ำเต้าหู้แทนกะทิ ถือเป็นทางเลือกเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ลดการใช้กะทิซึ่งมีไขมันอิ่มตัวสูง หากรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของกะทิบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุการจับเกาะของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งก่อให้เกิดโรคต่างๆ

กรดไขมันในน้ำมันชนิดต่างๆ

ชนิดของไขมัน กรดไขมันอิ่มตัว (%) กรดไขมันไม่อิ่มตัว ตำแหน่งเดียว (%) กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (%
น้ำมันมะพร้าว 85 6 2
น้ำมันรำข้าว 32 51 15
น้ำมันถั่วเหลือง 15 23 58

คำแนะนำ ของสมาคมโรคหัวใจและหลอดเลือดแห่งสหรัฐอเมริกาให้กินอาหารที่มีปริมาณกรดไขมันตามอัตราส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว:กรดไขมันไม่อิ่มตัว1ตำแหน่ง:กรดไขมันไม่อิ่มตัว หลายตำแหน่งเป็น 1 : 1 : 1 เหมาะกับผู้รักษาสุขภาพ และผู้ที่มีโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูง หรือโรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจและเส้นเลือดตีบตัน