อีโทโนเจสเตรล (Etonogestrel)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาอีโทโนเจสเตรล(Etonogestrel หรือ 11- Methylenelevonorgestrel หรือ3-keto-desogestrel) เป็นยาประเภทฮอร์โมนเพศที่ใช้คุมกำเนิด มีรูปแบบยาแผนปัจจุบันที่ใช้ฝังใต้ผิวหนัง(ยาฝังคุมกำเนิด) โดยตัวยาจะถูกบรรจุในแท่งพลาสติกเล็กๆ การใช้งานต้องให้แพทย์ฝังเข้าใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขนส่วนบน ยาอีโทโนเจสเตรลมีฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ในสตรี และทำให้ปากมดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงจนยากต่อการฝังตัวของไข่ รวมถึงเป็นอุปสรรคต่อสเปิร์ม(Sperm หรือ ตัวอสุจิ)ที่จะว่ายผ่านปากมดลูกเข้าไปในมดลูก การฝังฮอร์โมนอีโทโนเจสเตรลครั้งหนึ่งสามารถคุมกำเนิดได้ยาวนานถึง 3 ปี ปัจจุบัน จะรู้จักยาคุมกำเนิดชนิดนี้ภายใต้ชื่อการค้าว่า “Implanon”

ผู้บริโภคควรทราบข้อมูลสำคัญๆบางประการของยาอีโทโนเจสเตรลดังนี้ เช่น

  • ห้ามใช้ยาอีโทโนเจสเตรลกับผู้ป่วย โรคตับ มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก โรคหัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด รวมถึงผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
  • ห้ามใช้กับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ และเด็ก
  • การใช้ยาฮอร์โมนอีโทโนเจสเตรล กับสตรีที่สูบบุหรี่จัด จะเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด โรค/ภาวะหัวใจล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วนมากๆ

ทั้งนี้ ก่อนที่จะใช้ยาอีโทโนเจสเตรล ควรต้องพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจประเมินร่างกาย และโรคประจำตัวบางอย่างที่อาจได้รับผลกระทบ(อาการแย่ลง)อย่างมากหากใช้ยาอีโทโนเจสเตรล เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง(โรคไขมันในเลือดสูง) สตรีที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปที่มีประวัติสูบบุหรี่จัดก็ถูกจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่แนะนำให้ใช้ยาฮอร์โมนชนิดนี้ และรวมถึงสตรีที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรด้วย

หลังจากได้รับการฝังยาคุมกำเนิดอีโทโนเจสเตรลแล้ว ปรากฏว่ามีประจำเดือนมาผิดปกติ ควรต้องรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว

อนึ่ง ในช่วงเวลาที่ใช้ฮอร์โมนอีโทโนเจสเตรล ผู้บริโภคควรตรวจคลำก้อนเนื้อ เต้านมของตนเองเป็นระยะๆตามแพทย์ พยาบาล เภสัชกร แนะนำ และควรไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง เพื่อแพทย์ตรวจร่างกาย ตรวจมะเร็งเต้านม และเมื่อครบเวลา 3 ปี ก็ให้แพทย์นำแท่งพลาสติกที่บรรจุยาออกจากท้องแขนให้เป็นที่เรียบร้อย

ยาอีโทโนเจสเตรล เป็นยาประเภทยาอันตราย มีข้อห้ามใช้ ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงมากมาย การใช้ยาฮอร์โมนชนิดนี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

อีโทโนเจสเตรลมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร ?

อีโทโนเจสเตรล

ยาอีโทโนเจสเตรลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อ ช่วยคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์

อีโทโนเจสเตรลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธ์ของยาอีโทโนเจสเตรลคือ ตัวยาซึ่งเป็นสารเมตาโบไลท์ (Metabolite,สารที่เกิด/สังเคาระห์จากกระบวนการทางเคมี) ของยา Desogestrel ที่สามารถออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิด โดยยับยั้งการตกไข่ของสตรี และทำให้ปากมดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดสารเมือกข้นเหนียวที่ทำให้ยากต่อการฝังตัวของไข่ และเป็นอุปสรรคต่อตัวอสุจิมิให้ว่ายเข้าสู่โพรงมดลูก จากกลไกที่กล่าวมาจึงก่อให้เกิดฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตามสรรพคุณ

อีโทโนเจสเตรลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาอีโทโนเจสเตรลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็น ยาคุมกำเนิดชนิดฝังใต้ผิวหนัง โดยบรรจุฮอร์โมนสังเคราะห์อีโทโนเจสเตรล ขนาด 68 มิลลิกรัม ในแท่งพลาสติกเล็กๆ

อีโทโนเจสเตรลมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ยาอีโทโนเจสเตรล มีขนาดการบริหารยาใช้ยา เช่น

  • ผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: ฝังหลอดยาฮอร์โมนนี้ใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขนส่วนบน 1 แท่ง โดยใช้หัตถการที่ถูกต้องในสถานพยาบาล การฝังฮอร์โมนนี้ให้กระทำในวันที่ 1 – 5 ของการมีประจำเดือน หรือฝังยาฮอร์โมนนี้หลังจากรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดเม็ดสุดท้ายเสร็จสิ้น

*อนึ่ง

  • ห้ามใช้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • การฝังแท่งฮอร์โมนนี้ แพทย์จะฝังในตำแหน่งท้องแขนเพื่อหลบสายตา ไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็นได้ง่าย
  • ขณะได้รับการฝังแท่งฮอร์โมนนี้ ผู้บริโภคจะยังสังเกตเห็นร่องรอยและสัมผัสได้ว่าแท่งยาฮอร์โมนยังอยู่ในตำแหน่งเดิมใต้ผิวหนัง หากพบว่าแท่งยาฮอร์โมนนี้หายไป หรือคลำไม่พบ ให้รีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลด่วน ไม่ต้องรอถึงวันนัด
  • ให้แพทย์นำแท่งยาฮอร์โมนออก เมื่อใช้ไปแล้วครบ 3 ปี และสามารถใช้แท่งยาฮอร์โมนนี้ใหม่ได้ โดยเป็นไปตามคำสั่งหรือตามความเห็นชอบของแพทย์

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาอีโทโนเจสเตรล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดตีบตัน โรคไมเกรน หลอดเลือดำขอด รวมถึงกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอีโทโนเจสเตรล อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภท สามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมฝังยาคุมกำเนิดอีโทโนเจสเตรลควรทำอย่างไร?

ยาอีโทโนเจสเตรล เป็นยาที่ใช้ได้ระยะเวลานาน (3 ปี) ถึงจะฝังยาหลอดใหม่ได้ จึงไม่น่าใช่เรื่องเสี่ยงต่อการหลงลืมการใช้ยาแต่อย่างใด

อีโทโนเจสเตรลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาอีโทโนเจสเตรล สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนี้ เช่น

  • ผลต่อบริเวณผิวหนังที่ฝังยาคุมกำเนิดนี้: เช่น รู้สึกเจ็บบริเวณที่ฝังยา
  • ผลต่อผิวหนังทั่วไป: เช่น เกิดสิวตามผิวหนังได้ทั่วไป
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้
  • ผลต่ออวัยวะสืบพันธุ์ภายในเพศหญิง: เช่น มีเลือดประจำเดือนออกผิดปกติ/ประจำเดือนผิดปกติ ช่องคลอดอักเสบ ขาดประจำเดือน เกิดตกขาว
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน กระสับกระส่าย
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง
  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น ไซนัสอักเสบ คออักเสบ เกิดการติดเชื้อ ระบบทางเดินหายใจส่วนบน

มีข้อควรระวังการใช้อีโทโนเจสเตรลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาอีโทโนเจสเตรล เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ และสตรีที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยเนื้องอกตับหรือมะเร็งตับ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม โรคหัวใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • ระวังการใช้ยาอีโทโนเจสเตรลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน/อ้วน ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะบ่อย โรคไมเกรน ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
  • หยุดการสูบบุหรี่ และการดื่มสุราระ หว่างที่มีการใช้ยาคุมกำเนิดนี้
  • อาการข้างเคียงต่างๆ อาจจะเกิดกับผู้ที่ใช้ยาอีโทโนเจสเตรลได้ไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม หากพบอาการข้างเคียงที่รบกวนต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ให้รีบกลับมาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาล โดยไม่ต้องรอจนถึงวันนัด
  • เมื่อใช้ยานี้ หมั่นตรวจเต้านมด้วยตนเองตามแพทย พยาบาล เภสัชกร แนะนำ เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้อ(ก้อนเนื้อในเต้านม)เกิดขึ้นหรือไม่
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อ การตรวจร่างกาย การตรวจเลือด ว่าผิดปกติหรือไม่ ตามแพทย์นัดทุกครั้ง
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมอีโทโนเจสเตรลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

อีโทโนเจสเตรลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

อีโทโนเจสเตรลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาอีโทโนเจสเตรลร่วมกับยาต้านไวรัส เช่น Amprenavir อาจเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยาอีโทโนเจสเตรลด้อยลงไป หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาอีโทโนเจสเตรลร่วมกับยา Rifampin และ Phenobarbital อาจทำให้ ระดับยาอีโทโนเจสเตรลในเลือดลดต่ำลง และส่งผลให้มีภาวะเลือดออกจากช่องคลอดติดตามมา(ประจำเดือนผิดปกติ) หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้ยาอีโทโนเจสเตรลร่วมกับยาTheophylline อาจทำให้ระดับยา Theophylline ในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆตามมา กรณีต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป

ควรเก็บรักษาอีโทโนเจสเตรลอย่างไร?

ควรเก็บยาอีโทโนเจสเตรล ภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็ก และพ้นสัตว์เลี้ยง

อีโทโนเจสเตรลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาอีโทโนเจสเตรลที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Implanon NXT (อิมพลานอน เอ็นเอ็กซ์ที)MSD

อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ในต่างประเทศ เช่น Nexplanon, Implanonand , NuvaRing

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Etonogestrel [2016,Dec10]
  2. https://www.drugs.com/mtm/etonogestrel-implant.html [2016,Dec10]
  3. http://www.mims.com/thailand/drug/info/etonogestrel/?type=brief&mtype=generic [2016,Dec10]
  4. http://www.mims.com/thailand/drug/info/implanon%20nxt/?type=brief [2016,Dec10]