อัมพาต 360 องศา: ทุกข์หรือสุขอยู่ที่ใจเรา ไม่ได้อยู่ที่ใคร
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 13 ตุลาคม 2558
- Tweet
การที่เราเจ็บป่วยเป็นโรคใดๆ ก็ตามย่อมส่งผลต่อการดำรงชีวิต การทำงาน นอกจากผลกระทบที่เกิดกับตนเองแล้วยังส่งผลต่อครอบครับด้วยเสมอ ยิ่งเป็นโรคอัมพาตก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากกว่าโรคอื่นๆ ผู้ป่วยโรคอัมพาตจึงมีความทุกข์อย่างมาก คู่สามี ภรรยาก็ยิ่งทุกข์ บางครอบครับเกิดความทุกข์ไปทั้งหมด และอาจทำให้เกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงได้หลายรูปแบบ หรือครอบครัวล่มสลายได้ การแก้ปัญหาผลกระทบนั้น แพทย์ก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เช่น การให้กำลังใจ การเล่าประสบการณ์ที่เคยพบกับผู้ป่วยกรณีต่างๆ แต่ก็ไม่มีใครช่วยผู้ป่วยได้ดีกว่าตัวผู้ป่วยเอง
ผมได้มีโอกาสดูแลผู้ป่วยโรคอัมพาตเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ผมได้เห็นความรู้สึก การแสดงออกของผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย เพื่อ คนรู้จักที่ได้มาเยี่ยมผู้ป่วย จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นทุกข์ ทุกข์มากกับมากที่สุด แล้วความทุกข์นี้เองก็ทำให้แต่ละครอบครัวมีการแก้ไขหรือจัดการกับความทุกข์ที่แตกต่างกัน อะไรเป็นเหตุที่ทำให้แต่ละคน แต่ละครอบครัวมีการจัดการหรือการตอบสนองต่อสิ่งเดียวกันแต่ตอบสนองหรือรู้สึกแตกต่างกัน ผมพอที่จะสรุปได้ดังนี้
- ความพร้อมทางครอบครัว ในครอบครัวที่มีความพร้อมในด้านฐานะ ความรู้ ความเข้าใจ มีคนดูแลผู้ป่วยได้ และพร้อมที่ปรับตัว ก็จัมีความทุกข์ไม่มากนัก และเปลี่ยนจากทุกข์มากในช่วงแรก เป็นทุกข์น้อยลง และอาจเข้าสู่สภาวะปกติในภายหลัง
- ระดับการศึกษาของผู้ป่วยและญาติ ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่แปลกครับ ผมกลับพบว่าผู้ที่ไม่ค่อยได้ศึกษาสูงๆ เช่น ทำนา ทำไร่ จะปรับตัวให้เข้ากับปัญหาที่พบได้ง่าย เพราะเข้าใจว่านี้คือความจริง อย่างไหรก็หนีไม่พ้น แต่ถ้าเป็นผู้มีการศึกษาสูงๆ จะทุกข์มาก ทุกข์นาน เพราะไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงที่ประสบปัญหาตอนนี้ได้ เพราะมีเป้าหมายที่สูงว่าต้องหายดี แต่เมื่อไม่หายก็เป็นทุกข์
- มุมมองครับ คนที่มองแง่บวกก็ทุกข์น้อยกว่า เช่น เราเป็นอัมพาตก็จริงแต่ก็ยังพูดได้ ทานข้าวได้ เพียงแค่เดินไม่ได้ แต่ถ้ามองแบบลบ ก็มองว่าทำไมเราถึงเดินไม่ได้ แต่ก่อนเราจะไปไหนมาไหนก็ได้ ตอนนี้แค่จะเดินในบ้านก็เดินไม่ได้ ทุกข์มากกว่าคนที่เขาเดินไม่ได้ พูดไม่ได้ ทานอาหารเองไม่ได้เสียอีก
- การเข้าสู่ธรรม ผมสอบถามผู้ป่วยที่อาการรุนแรง แต่ทำไมถึงปรับตัว ยอมรับปัญหาต่างๆได้ดีมาก ได้ข้อสรุปเหมือนกันทุกคน คือ การเข้าถึงธรรม ไปวัดครับ ฟังพระเทศน์เรื่องราวต่างๆ ก็ทำให้เข้าใจธรรมชาติ การเป็นไปของมนุษย์
สุดท้ายเลยที่ผมได้เรียนรู้จากผู้ป่วยหลายต่อหลายคน คือ กำลังใจของครอบครัวครับ ทุกคนจะบอกว่าช่วงแรกๆที่ป่วย คนมาเยี่ยมก็มากหน้า หลายตาจนจำไม่ได้ เพราะเยอะมาก แต่พอเราเจ็บป่วยนานๆ ก็แทบไม่มีใครมาเยี่ยมเลย คนที่อยู่ดูแลเราก็มีเพียงแต่คนในครอบครัวเท่านั้น ได้กำลังใจจากครอบครัวเพียงอย่างเดียว ดังนั้นสิ่งที่เป็นกำลังใจที่ดีที่สุด คือ “คนในครอบครัว” ผมจึงสรุปได้ว่า ทุกข์หรือสุขอยู่ที่ใจของเรา กับกำลังใจของคนในครอบครัว “การเข้าถึงธรรม ถ้าทำได้ก่อนเจ็บป่วยก็น่าจะดีครับ”