อัมพาต 360 องศา: ตอน การคัดกรองตนเองว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นอัมพาต มีประโยชน์จริงหรือ

อัมพาต  360 องศา

การรักษาโรคอัมพาตที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้เป็นอัมพาต ถึงแม้ว่าการรักษาที่ดีที่สุดเมื่อเป็นอัมพาตแล้วคือการให้ยาละลายลิ่มเลือด แต่ก็ได้ผลในการรักษาเพียงแค่ร้อยละ 50 ยังมีผู้ป่วยอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา จึงเป็นที่มาของการรักษาที่ดีที่สุด คือ ไม่เป็นโรคอัมพาต

การคัดกรองโรคอัมพาตคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร การคัดกรอง คือ การตรวจประเมินด้วยตนเองหรือพบแพทย์เพื่อประเมินว่าแต่ละคนนั้นมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคอัมพาตมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการประเมินนั้นก็จะใช้เครื่องมือ คือ แบบประเมินภาวะเสี่ยงในการเกิดโรคอัมพาต โดยแบบประเมินนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากการศึกษาปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคอัมพาต เช่น ประวัติครอบครัว การมีคนในครอบครัวเป็นโรคอัมพาตหรือไม่ โรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการก่อโรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง ภาวะอ้วน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจขาดเลือด การไม่ออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ เป็นต้น

เมื่อได้ทำการประเมินแล้วก็จะได้ค่าคะแนนออกมาว่าแต่ละคนนั้นมีค่าความเสี่ยงของการเกิดโรคอัมพาตมากน้อยแค่ไหน ทำให้แต่ละบุคคลมีการดูแลตนเองให้ดีขึ้น คนที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงก็ต้องดูแลตนเองให้ดีตลอดไป ด้วยการปรับลดพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไป ออกกำลังกายให้มากขึ้น คนที่มีปัจจัยเสี่ยงในการก่อโรคสูง ก็ต้องยิ่งดูแลตนเองให้ดียิ่งขึ้น พยายามลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆให้มากที่สุด รักษาโรคประจำตัวให้ดีที่สุด

ที่สำคัญคือทำให้เราไม่ประมาททั้งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเล็กน้อยหรือมากก็ตาม ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือ การลงทะเบียนหรือบันทึกประวัติการคัดกรองสุขภาพไว้แล้ว การลงข้อมูลว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน ในบางสถานบริการจะมีระบบข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดที่อยู่ลงในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะทำการบันทึกว่าที่อยู่ของแต่ละบุคคลที่มาลงทะเบียนไว้ มีที่อยู่อยู่ตรงพื้นที่ไหนบ้าง ถ้ามีเหตุฉุกเฉินก็สามารถส่งรถพยาบาลออกไปรับผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยก็จะได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีและรวดเร็วทันเวลาด้วย

ดังนั้นผมอยากให้ทุกท่านได้มีการคัดกรองปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคล และมีการลงทะเบียนไว้กับสถานบริการเพื่อให้เราทุกคนมีความตะหนักต่อปัญหาสุขภาพของตนเอง และเป็นการป้องกัน ส่งเสริมให้เราทุกคนมีสุขภาพที่ดีไว้ก่อนที่เราจะเป็นโรคครับ