อัมพาต 360 องศา: ตอน ดื่มไวน์ป้องกันโรคอัมพาตได้จริงหรือ

อัมพาต  360 องศา

“สวัสดีปีใหม่ครับคุณหมอ ผมได้นำไวน์ขึ้นชื่อมาให้เป็นของขวัญปีใหม่ครับ ผมได้มาจากฝรั่งเศสเลยนะครับ” ประโยคข้างต้นจากผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่มารับการรักษากับผมมานานมากกว่า 10 ปี ผมจึงพูดหยอกกลับไปว่า “ คุณน้าขอบคุณครับ แต่ว่าคุณน้าไม่ทราบหรือครับ เดี๋ยวนี้เขารณรงค์กันว่า ให้เหล้าเท่ากับแช่ง” อ้าวทำไมละครับ ผมเคยอ่านในหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพเล่มหนึ่ง เห็นเขาบอกว่าการดื่มไวน์หรือแอลกอฮอล์วันละนิด วันละหน่อยจะสามารถช่วยป้องกันโรคอัมพาตได้ จริงหรือเปล่าครับที่ว่าให้เหล้าเท่ากับแช่ง ผมก็เลยนำไวน์มาให้คุณหมอแทนเหล้าไหงครับ”

ประเด็นการให้เหล้าเท่ากับแช่งนั้นจริงแท้แน่นอนครับ เพราะการดื่มเหล้านั้นส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งในระยะสั้น คือ เมาเหล้าก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ความดันโลหิตสูงขึ้น ระยะยาวก็ส่งผลเสียต่อทุกระบบของร่างกาย แล้วการดื่มไวน์ละครับก่อให้เกดประโยชน์จริงหรือไม่ ถ้าถามในด้านวิชาการ ก็อาจตอบได้ว่ามีการศึกษาเปรียบเทียบการดื่มไวน์ในปริมาณที่เหมาะสมต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหลายปี โดยดื่มในปริมาณคงที่ไม่มีการเพิ่มขึ้น แล้วเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่มไวน์ พบว่ากลุ่มคนที่ดื่มไวน์ในปริมาณที่เหมาะสม ขนาดคงที่ ต่อเนื่องกันเป็นเวลาหนึ่งมีการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดื่มไวน์ชัดเจน จึงมีการสรุปว่าการดื่มไวน์นั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

แต่ทำไมถึงไม่มีการแนะนำให้ทุกคนดื่มไวน์เหมือนการรณรงค์ให้ออกกำลังกาย หรือดื่มนมทุกวัน นอกจากไม่รณรงค์แล้วยังไม่แนะนำ ยังห้ามด้วย เพราะอะไรหรือครับ เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน คือ ข้อมูลจาการศึกษานั้นต้องจำกัดการดื่มไวน์ในปริมาณที่ควบคุม และไม่มีการเพิ่มปริมาณ ซึ่งในทางชีวิตจริงๆ คงหายากที่จะมีใครทำได้ตามงานวิจัยครับ เพราะการดื่มไวน์หรือแอลกอฮอล์ใดๆ ก็ตาม คนมักจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณการดื่มมากขึ้นๆ บางคนอาจติดได้ และการใช้ชีวิตหรือปรับพฤติกรรมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ การควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้อ้วน ไม่สูบบุหรี่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าการดื่มไวน์เป็นไหนๆ

การป้องกันไม่ให้ตนเองเป็นอัมพาตโดยการดื่มไวน์นั้นก็เป็นแบบนี้ครับ ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจนะครับ “แต่ผมไม่แนะนำแน่นอนครับ”