อันตรายของเสาส่งสัญญานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (ตอนที่ 1)

  • โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
  • 22 พฤศจิกายน 2559
  • Tweet
อันตรายของเสาส่งสัญญานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

นักวิทยาศาสตร์เกือบ 200 คน ร่วมกันลงชื่อเรียกร้องให้สหประชาชาติกำหนดแนวทางเพื่อป้องกันอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือรวมถึงอุปกรณ์ไร้สาย

มาร์ติน แบลงค์ ผู้บรรยายพิเศษเรื่องผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ 190 คนจาก 39 ประเทศ ที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกส่งถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, แท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์ไร้สายประเภทอื่นๆ

โดยระบุว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทำลายดีเอ็นเอของมนุษย์ และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทำให้ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้เป็นโรคอ้วนและออทิสติก

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้ยื่นจดหมายไปถึงยูเอ็น ประเทศสมาชิกยูเอ็นและองค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้กำหนดแนวทางเพื่อป้องกันอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งที่ออกมาจากเสาส่งสัญญานและอุปกรณ์ไร้สาย รวมถึงให้ความรู้และข้อมูลแก่ประชาชนถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพ

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Radiation หรือ EM radiation หรือ EMR)) เป็นรูปแบบหนึ่งการถ่ายเทพลังงานจากแหล่งที่มีพลังงานสูงแผ่รังสีออกไปรอบๆ

โดยความยาวคลื่น (l) อาจวัดเป็นนาโนเมตร (nanometer = nm) หรือไมโครเมตร (micrometer = mm) และ ความถี่คลื่น (f) ซึ่งจะวัดเป็นเฮิรตซ์ (hertz = Hz)

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่เคลื่อนที่โดยไม่อาศัยตัวกลาง จึงสามารถเคลื่อนที่ในสุญญากาศได้ ความยาวช่วงคลื่นและความเข้มของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของแหล่งกำเนิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบ่งลำดับตามความยาวคลื่นได้ดังนี้

  • ช่วงรังสีแกมมา (Gamma ray) เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นน้อยที่สุด กล่าวคือ มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 0.01 นาโนเมตร โฟตอนของรังสีแกมมามีพลังงานสูงมาก กำเนิดจากแหล่งพลังงานนิวเคลียร์ เช่น ดาวระเบิด หรือ ระเบิดปรมาณู เป็นอันตรายมากต่อสิ่งมีชีวิต
  • ช่วงรังสีเอ็กซ์ (X-ray) มีความยาวคลื่น 0.01 - 1 นาโนเมตร มีแหล่งกำเนิดในธรรมชาติมาจากดวงอาทิตย์ เราใช้รังสีเอ็กซ์ในทางการแพทย์ เพื่อส่องผ่านเซลล์เนื้อเยื่อ แต่ถ้าได้ร่างกายได้รับรังสีนี้มากๆ ก็จะเป็นอันตราย
  • ช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet radiation) มีความยาวคลื่น 1 - 400 นาโนเมตร รังสีอัลตราไวโอเล็ตมีอยู่ในแสงอาทิตย์ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากได้รับมากเกินไปก็จะทำให้ผิวไหม้ และอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
  • ช่วงคลื่นแสง (Visible light) มีความยาวคลื่น 400 – 700 นาโนเมตร เป็นช่วงคลื่นที่ตามนุษย์รับรู้ได้ ประกอบด้วยแสงสีม่วงไล่ลงมาจนถึงแสงสีแดง พลังงานที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ส่วนมากเป็นรังสีในช่วงนี้

บรรณานุกรม

1. นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเรียกร้องยูเอ็นเตือนภัยแม่เหล็กไฟฟ้า. http://news.thaipbs.or.th/content/1483 [2016, November 21].

2. Space Environment. http://www.qrg.northwestern.edu/projects/vss/docs/space-environment/2-what-is-electromagnetic-radiation.html [2016, November 21].