หยุดบุหรี่ หยุดเสี่ยง (ตอนที่ 3)

การสูบบุหรี่ยังทำให้ร่างกายกำจัดยาบางชนิดได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อมีการเลิกบุหรี่อาจจะทำให้ระดับยาเปลี่ยนแปลงไป และทำให้รู้สึกไม่สบายตัว จึงควรปรึกษาแพทย์ด้วย

การสูบบุหรี่มีผลกระทบกับอวัยวะเกือบทุกส่วนของร่างกาย ครึ่งหนึ่งของนักสูบบุหรี่มักจะจบลงด้วยการเป็นโรคอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่ ในสหรัฐอเมริกาจากจำนวนผู้เสียชีวิต 5 ราย จะมีสถิติเกือบ 1 รายที่เสียชีวิตเพราะการสูบบุหรี่ และมีประชากรอีกประมาณ 8.6 ล้านคนที่ได้รับความทรมานจากการเป็นโรคปอดและหัวใจอันเนื่องมาจากการสูบบุหรี่

เกือบทุกคนจะรู้ดีว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในปอด แต่มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งอื่นด้วย เช่น มะเร็งในปาก จมูก ไซนัส ริมฝีปาก กล่องเสียง (Larynx) ช่องคอ (Pharynx) หลอดอาหาร (Esophagus) กระเพาะปัสสาวะ (Bladder) ไต ตับอ่อน รังไข่ ปากมดลูก ท้อง ลำไส้ใหญ่ (Colon) ลำไส้ตรง (Rectum) และมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ (Acute myeloid leukemia)

นอกจากนี้นักสูบบุหรี่มีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบถึง 2 เท่า เพราะการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคของหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral vascular disease = PVD) ซึ่งทำให้หลอดเลือดที่ส่งไปยังแขนและขาแคบลง โรคหลอดเลือดสมองคาโรติด (Carotid artery) ที่ทำให้ผนังหลอดเลือดมีปัญหาอุดตันในสมอง (Stroke) โรคหลอดเลือดแดงเออร์ตาโป่งพองในช่องท้อง (Abdominal Aortic Aneurysm) ที่ทำให้หลอดเลือดอ่อนแอและแตก ซึ่งคร่าชีวิตของคุณได้อย่างไม่ทันตั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้นการสูบบุหรี่ยังทำให้ผู้ชายไร้สมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction) ได้

การสูบบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular degeneration) ซึ่งมักทำให้ผู้สูงอายุตาบอด ทำให้เกิดต้อกระจก เกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย ลมหายใจเหม็น เป็นโรคเหงือก ฟันหัก มีคราบเหลืองที่ฟันและนิ้วมือ

สำหรับผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปี และใช้ยาคุมกำเนิดจะมีโอกาสสูงในการเป็นโรคหัวใจ และลิ่มเลือดอุดตันที่ขา (Blood clots in the legs) หญิงตั้งครรภ์ที่สูบบุหรี่มักจะแท้งหรือเด็กคลอดมามีน้ำหนักตัวน้อย ซึ่งเด็กมักจะเสียชีวิตและมีปัญหาทางการเรียนรู้และทางกายภาพ

จากการเก็บสถิติของ US Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ในปี พ.ศ.2533 พบว่า ผู้ชายที่สูบบุหรี่จะอายุสั้นลงเฉลี่ย 13.2 ปี ในขณะที่ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะอายุสั้นลงเฉลี่ย 14.5 ปี ทั้งนี้ในแต่ละปี สหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ประมาณปีละ 443,000 ราย

ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร สูบบุหรี่มานานขนาดไหน การเลิกสูบบุหรี่จะสามารถช่วยให้คุณมีชีวิตยืนขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น คนที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนอายุ 50 ปี จะสามารถหยุดความเสี่ยงของการตายใน 15 ปีข้างหน้าได้ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับคนที่ยังสูบต่อไป คนที่เลิกสูบจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความเจ็บป่วยน้อยลง เช่น ไข้หวัด และมีอัตราการเป็น โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) และโรคปอดอักเสบ (Pneumonia) ที่น้อยกว่า

แหล่งข้อมูล:

  1. What do I need to know about quitting? http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/guidetoquittingsmoking/guide-to-quitting-smoking-why-so-hard-to-quit [2014, February 2].
  2. Why should I quit? http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/guidetoquittingsmoking/guide-to-quitting-smoking-why-quit [2014, February 2].