หมอสมศักดิ์ ตอบ:ไปหาแพทย์ที่คลินิก เพื่อเป็นทางลัดในการรักษาในโรงพยาบาล

หมอสมศักดิ์ตอบ-12


      

      การเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็อยากได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ถ้าอาการเจ็บป่วยรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็อยากให้หมอที่เราไว้ใจเป็นผู้ให้การรักษา ซึ่งการไปรับการรักษาในโรงพยาบาลเองก็จะไม่สามารถให้หมอที่เราชอบ หรือไว้วางใจเป็นผู้ให้การรักษาได้ ต้องเป็นไปตามเวรของโรงพยาบาลที่กำหนดในวันนั้น ดังนั้นผู้ป่วย ญาติจึงมีหลายวิธีในการพยายามให้ได้พบหมอที่ตนเองไว้วางใจเป็นเจ้าของไข้ เช่น ฝากกับพยาบาล หรือคนที่รู้จัก ทำงานในโรงพยาบาลให้ช่วยขอร้องให้แพทย์ที่ตนเองต้องการให้มาดูแลรับเป็นเจ้าของไข้ ซึ่งก็ไม่ง่ายนัก เนืองจากแพทย์ก็มีภารกิจประจำหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว อีกวิธีหนึ่งก็คือไปพบแพทย์ที่คลินิก แล้วแพทย์ประเมินว่าอาการรุนแรงต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะขอร้องให้แพทย์รับเป็นเจ้าของไข้ ซึ่งวิธีนี้มีโอกาสสูง เพราะแพทย์ผู้ตรวจเมื่อส่งผู้ป่วยเข้ามาในโรงพยาบาล ก็มักจะต้องตามาดูต่อ ยกเว้นเป็นโรคที่ไม่ถนัดจริง ๆ ก็ไม่สามารถมาดูแลต่อเนื่องได้ มีคำถามว่าการที่ผู้ป่วยทำแบบนี้ คือ ไปพบแพทย์ที่คลินิก เพื่อให้ส่งตัวมานอนรักษาในโรงพยาบาล แล้วเป็นเจ้าของไข้ด้วย เป็นการกระทำที่ควรทำ เหมาะสมหรือไม่ ทั้งในมุมของผู้ป่วยและแพทย์ที่อาจถูกมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนในการเพิ่มคนไข้ที่คลินิก ตรงนี้ผมว่าไม่สามารถสรุปได้ว่าเหมาะหรือไม่เหมาะครับ เพราะคงต้องมองที่ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับคนไข้เป็นหลักว่า การำแบบนี้ได้ประโยชน์อย่างไร เป็นการเอาเปรียบ หรือเป็นทางลัดจริงหรือไม่ และทำให้ผู้ป่วยคนอื่นเสียผลประโยชน์ ถูกละเมิดสิทธิไปหรือไม่ ผมพยามนั่งนึกวิเคราะห์ว่าจะมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง ดังนี้

      1. ข้อดี คือ การลดขั้นตอนการรับบริการ และถูกประเมินโยอาจารย์แพทย์ตั้งแต่ต้น ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ลดภาระงานของแพทย์ท่านอื่น ๆ ที่อยู่เวร ผู้ป่วย ญาติพึงพอใจ

      2. ข้อควรระมัดระวัง คือ มองว่าเป็นการลัดคิวหรือไม่ ทำให้ได้สิทธิพิเศษ ได้ห้องพิเศษ ได้รับการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ ประเด็นแบบนี้ต้องระมัดระวังอย่างมากสำหรับแพทย์ที่เปิดคลินิก หรืออาจมีคนมองต่อไปว่า แพทย์ได้รับค่าฝากพิเศษหรือไม่ ประเด็นหลังนี้อันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเป็นจริงตามที่คนสงสัย

      ดังนั้นผมเข้าใจทางฝั่งผู้ป่วย ญาติ แล้วก็แพทย์ด้วย ถ้าทุกคนบริสุทธิ์ใจ ผมว่าก็ไม่น่าจะมีอะไรครับ ลองคิดดูให้ดีก่อนที่จะทำอะไรนะครับ